เอฟซี ยะลา ทีมไทยลีก 3 ยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษ แต่โดนโทษเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากการประชุม คณะกรรมการอุทธรณ์ โดยมีพล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา เป็นประธาน เมื่อ 28 พ.ย.67
เหตุการณ์ตั้งต้น เมื่อ 2 พ.ย.67 เกม พัทลุง เอฟซี พบ เอฟซี ยะลา ช่วงนาทีที่ 90+6 มีการแย่งชิงบอลกัน นักเตะยะลา ล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์ จากนั้นโกลยะลา ฟิรฮัน มะแซ วิ่งเข้าไปคัดค้านและผลักหน้าอกผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 และยังมี ซุลกิ๊ฟลี ดีสะเอะ เจ้าหน้าที่ทีมยะลา วิ่งไปสมทบคัดค้าน ใช้ส่วนหัวไหล่ชนกระแทกที่หน้าอกของผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 นอกจากนั้น อาลีฟ ตีมุง นักเตะยะลา ชกที่หน้าอกของผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 เหตุการณ์นี้ 2 นักเตะยะลาโดนใบแดง คือ ฟิรฮัน มะแซ และ อาลีฟ ตีมุง
คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ลงโทษเพิ่มเติม แบน อาลีฟ ตีมุง 3 นัด ปรับเงิน 40,000 บาท แต่เป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่การแข่งขัน เพิ่มโทษเป็น 2 เท่า แบน 6 นัด ปรับ 80,000 บาท โทษปรับลด 1 ใน 4 เพราะเป็นแข่งไทยลีก 3 เหลือ 20,000 บาท
ส่วนเจ้าหน้าที่ทีมยะลา ซุลกิ๊ฟลี ดีสะเอะ ปรับเงิน 120,000 บาท ลดเหลือ 30,000 บาท และแบน 6 เดือน
ทั้งนี้ เอฟซี ยะลา ยื่นอุทธรณ์ ยอมรับผิด และตระหนักถึงความผิด ขอความเมตตาและอนุเคราะห์จากคณะกรรมการอุทธรณ์ พิจารณาลดโทษ เนื่องจากการลงโทษดังกล่าวเป็นโทษที่รุนแรงมากสำหรับเจ้าหน้าที่และนักกีฬาฟุตบอลที่ไม่เคยกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวมาก่อน ซึ่งได้สอบสวนพบว่า ซุลกิ๊ฟลี เพียงแค่ผลักหน้าอกด้วยปลายมือ และอาลีฟ ตีมุง ไม่ได้ใช้มือต่อยหน้าอก เพียงแค่ผลักหน้าอกด้วยปลายมือ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการอุทธรณ์มีมติเอกฉันท์ ยืนโทษ อาลีฟ ตีมุง และมาประกอบกับ ระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 2 ข้อ 2.3 กระบวนการพิจารณาการยื่นอุทธรณ์ ข้อความว่า “กรณีคณะกรรมการอุทธรณ์ยืนโทษ ห้ามลงทำการแข่งขัน หรือห้ามปฏิบัติหน้าที่ตามคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ไม่ว่าจะมีโทษปรับหรือไม่ หรือมีโทษปรับสถานเดียวก็ตาม ให้คณะกรรมการอุทธรณ์เพิ่มโทษอีกหนึ่งเท่าของโทษที่ได้รับ” จึงเพิ่มโทษแบน อาลีฟ จาก 6 นัด เพิ่มเป็น 12 นัด และโทษปรับ เพิ่มจาก 20,000 เพิ่มเป็น 40,000 บาท
และมติเอกฉันท์ ยืนโทษ ซุลกิ๊ฟลี ดีสะเอะ ทำให้เพิ่มโทษเท่าตัว เป็นเพิ่มจากแบน 6 เดือน เพิ่มเป็น 12 เดือน และปรับ 30,000 เพิ่มเป็น 60,000 บาท
สรุปแล้ว โทษปรับสโมสรยะลา 100,000 บาท.
(ภาพจากเฟซบุ๊ก FC YALA เอฟซี ยะลา)