'พ่อน้องมากิ' แจงปมดราม่าชาวเน็ตวิจารณ์ซีรีส์ 'ทิชา' ใช้งานเด็กไข้สูงเข้าฉาก

เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ดังที่มีกระแสตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์ สำหรับ “ทิชา” ซีรีส์ดังของทางช่องวัน 31 ที่เพิ่งลงจอออนแอร์ไปได้ 2 EP ซึ่งเป็นแนวดราม่าระทึกขวัญสะท้อนสังคม และได้นักแสดงระดับตัวแม่ ตัวมัม นำแสดงโดย ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก, พีช พชร, ลูกเกด เมทินี และ น้ำฝน กุลณัฐ งานนี้ทำเอาเป็นที่พูดถึงกันอย่างล้นหลาม แม้จะได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชม แต่ก็ไม่วายกลับกลายเป็นประเด็นดราม่า ถูกวิจารณ์ร้อนแรงในโลกโซเชียลอีกครั้ง หลังคุณพ่อของ “น้องมากิ–มาชิตา สุทธิกุลพานิช” ซึ่งเป็นผู้รับบทบาท ‘อู่ยี่’ (ทิชา ในวัยเด็ก) หรือบทที่ใบเฟิร์นแสดง ออกมาเผยเบื้องหลังผ่านแพลตฟอร์ม X ถึงการทำงานในซีรีส์ทิชา ตอนที่ 2 ในฉากสุดรันทด ที่เผยให้เห็นว่าอู่ยี่ ไม่สบายจนเป็นลม โดยระบุเนื้อหาว่า “ฉากนี้อาจดูแสดงสมจริงเป็นพิเศษ เนื่องจากวันนั้นจู่ๆ มากิไข้ขึ้นเกือบ 40 #ทิชาEP2”

ล่าสุดหลังถูกชาวเน็ตวิจารณ์ถึงความเหมาะสมอย่างมากมาย พ่อน้องมากิได้ออกมาแจงประเด็นดราม่าดังกล่าวแล้วว่า “วันนั้นมากิมีถ่ายอยู่ซีนเดียว ไปถึงกองก็ปกติดีไม่มีปัญหา วันนั้นถ่ายเป็นซีนแรกด้วย ก็ถ่ายทำตามปกติ จนเหลือคัตสุดท้าย มากิเดินมาบอกว่ารู้สึกปวดหัว จับดูตัวอุ่นๆ เลยถามมากิว่าไหวมั้ย? มากิบอกว่าไหวเหลืออีกคัตเดียวเอง จากนั้นก็ถ่ายคัตที่เหลือจนเสร็จอย่างรวดเร็วและรีบพามากิไป รพ. จึงทราบว่ามากิมีไข้สูง เรื่องทั้งหมดเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า”

“มากิเป็นนักแสดงเด็กมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ในฐานะนักแสดง บางครั้งมันก็จะมีเหตุการณ์เฉพาะหน้า ที่ต้องเมเนจให้ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความปลอดภัยของลูก ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ครับ ส่วนที่ลบโพสต์ไป เพราะไม่อยากให้มีการเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ ที่โพสต์ไปทีแรก เพียงอยากเล่าเรื่องราว behind the scene โดยลืมคิดไปว่าอาจสร้างความไม่สบายใจให้หลายๆ คน ต้องขออภัยจริงๆ ที่คิดน้อยไปครับ”

ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ พ่อน้องมากิได้ออกมายอมรับว่าคิดน้อยไป และขอโทษแฟนๆ ที่ทำให้ไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยต่อไปจะคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกมากยิ่งขึ้น

ด้านชาวเน็ตที่ติดตามได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า คิดเยอะๆ ฮะ ยุคนี้สมัยนี้ สังคมโซเชียลมันไวและไหลเป็นกระแสน้ำป่า มันไหลแล้วไหลเลยความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างทางมันไม่มีใครย้อนกลับมาดูเลยค่า, ต่อไปก็เราสามารถชื่นชมลูกได้โดยที่ไม่ต้องเอาอาการเจ็บป่วยของเขามาบอกก็ได้ค่ะ, คุณพ่อคิดน้อยไปมาก เข้าใจว่าอยากโปรโมตลูก แต่บางเรื่องมันละเอียดอ่อน ครั้งหน้าควรต้องระวังมากๆ และอีกมากมาย