เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ว่า เรามีความยินดีอย่างมากต่อข้อตกลงนี้ และหวังว่าข้อตกลงนี้จะนำไปสู่สันติภาพที่ถาวร เรายังไม่ได้มีคำกล่าว (Statement) ใดๆ ในเรื่องนี้ก็จริง แต่เรามีความยินดีอย่างมาก เพราะเป็นตามแนวทางของเราที่หวังให้การสู้รบในอิสราเอลและพื้นที่ใกล้เคียงจบลงด้วยดี
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเตือนคนไทยในพื้นที่ดังกล่าว นายนิกรเดช กล่าวว่า ในภาพรวมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เรายังให้คนไทยใช้ความระมัดระวัง และขอยืนยันว่า การเดินทางเข้าไปในพื้นที่ความรุนแรงถือว่ายังมีความเสี่ยงอยู่ ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ก็ขออย่าเพิ่งเข้าไป และส่วนที่เป็นพื้นที่ปิดทางทหาร ฝ่ายไทยได้กำชับกับทางอิสราเอลแล้ว ว่าห้ามไม่ให้มีคนไทยเข้าไปเด็ดขาด ดังนั้น คนไทยที่อาจจะคิดว่าเข้าไปได้ เนื่องจากเป็นความปลอดภัยแล้ว ตนยืนยันว่า ขอให้ติดตามดูประกาศจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล และประกาศจากกระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อถามว่าคาดหวังว่าการหยุดยิงจะเกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสด้วยหรือไม่ จนทำให้ปล่อยตัวประกันที่เหลือ นายนิกรเดช กล่าวว่า แน่นอน เราหวังว่าจะนำไปสู่สันติภาพที่ถาวร เป็นเรื่องที่ไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งการการันตีว่าตัวประกัน 6 คน จะได้รับความปลอดภัยและได้รับการปล่อยตัว ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของทางการไทย
เมื่อถามว่านอกจากในพื้นที่อิสราเอล มีความขัดแย้งหลายจุดในทวีปยุโรป จนมีการวิเคราะห์ว่าอาจเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ทางการไทยประเมินอย่างไร นายนิกรเดช กล่าวว่า เราติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเป็นรายวัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสงครามจะยุติโดยเร็ว ขณะเดียวกันก็มีข่าวเรื่องความขัดแย้งกระจายออกไปจุดต่างๆ ซึ่งทำให้เราห่วงกังวล เพราะขัดกับหลักการของประเทศไทย ที่ต้องการให้ยุติความรุนแรงเร็วที่สุด และเป็นไปโดยสันติ