ปัญหาระบบไฟฟ้าในโรงงานไม่ว่าจะไฟฟ้าลัดวงจร ไฟช็อต หรือไฟดับ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพราะระบบไฟฟ้าที่ขัดข้องนั้นสร้างความเสียหายได้เป็นอย่างมาก จึงต้องมีการตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานอประจำปีตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อตรวจสอบให้ระบบไฟอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานเป็นปกติ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและทรัพย์สินด้วย
บทความนี้จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจข้อควรรู้สำคัญต่าง ๆ เกี่ยวกับการตรวจสอบระบบไฟฟ้าโรงงาน รู้จักขั้นตอนการตรวจระบบไฟฟ้า พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจากช่างอย่างเหมาะสม
เมื่อไหร่ที่ควรดำเนินการตรวจระบบไฟฟ้าโรงงาน?
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงานเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของการติดตั้งและการเชื่อมต่อ รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฟฟ้า เพื่อให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าโรงงานพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย
สำหรับใครที่สงสัยว่าควรตรวจสอบไฟฟ้าโรงงานเมื่อไหร่นั้น ตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และการกำหนดมาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าในโรงงาน พ.ศ. 2550 (กรมอุตสาหกรรม) นั้น กำหนดผู้ประกอบกิจการโรงงานตรวจระบบไฟฟ้าอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง พร้อมจัดทําบันทึกผลการตรวจสอบ และรับรองระบบไฟฟ้าและบริภัณฑ์ไฟฟ้าด้วย
ทั้งนี้ความถี่ในการตรวจไฟฟ้าประจำปีขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการใช้งานระบบไฟ นอกจากนี้หากเกิดอุบัติเหตุหรือมีอุปกรณ์เครื่องจักรสำคัญในระบบไฟชำรุดก็ควรแก้ไขซ่อมแซมและตรวจระบบไฟฟ้าอีกรอบ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบไฟจะกลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยทั้งระบบ
หากไม่ตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานจะเกิดอะไรขึ้น?
อย่างที่ได้ทราบกันแล้วว่าการตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานเป็นกระบวนการที่ตรวจสอบเพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ แต่หากไม่มีการตรวจสอบบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในโรงงานอาจทำให้เกิดผลเสียและอันตรายร้ายแรงตามมาได้ ตัวอย่างเช่น
- เกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้องหรือไฟฟ้าลัดวงจร
หากไม่ตรวจไฟฟ้าในโรงงานให้ดีและไม่ซ่อมบำรุงระบบไฟที่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพ อาจเสี่ยงเกิดระบบไฟฟ้าขัดข้องบ่อยขึ้น
- เกิดอุบัติเหตุ สร้างความเสียหายต่อธุรกิจ
ไฟฟ้าลัดวงจรเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงตามมา เช่น ไฟดูด ไฟช็อต หรือไฟไหม้ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อธุรกิจเป็นวงกว้างทั้งด้านชีวิตพนักงานและทรัพย์สิน ดังนั้นการตรวจสอบระบบไฟฟ้าทั้งในอาคารและนอกอาคารส่วนที่เกี่ยวข้องจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย
- กิจการขาดความน่าเชื่อถือ
หากไม่มีการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในโรงงานอย่างเหมาะสม เมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องหรือไฟดับกะทันหัน อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตจนทำให้ธุรกิจเดินต่อไม่ได้ ชื่อเสียงของธุรกิจเสียหายและขาดความน่าเชื่อถือ
ตรวจระบบไฟฟ้าโรงงาน มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
การตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานที่ถูกต้อง จะช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐาน และปลอดภัย โดยขั้นตอนการตรวจระบบไฟฟ้าประจำปีตามกฎหมายมีหลัก ๆ ดังนี้
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้าทั่วไปด้วยสายตา โดยดูจากสภาพสายไฟ แผงควบคุมไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าว่าเกิดความเสียหาย มีรอยไหม้ หรือรอยแตกหรือไม่
- ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าเกิน (Overload Relay) เบรกเกอร์ หรืออุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าดูด (RCD)
- ตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้า โดยเช็กถังหม้อแปลง ระบบการติดตั้ง และจุดเชื่อมต่อสายไฟ รวมไปถึงการวัดค่าต่าง ๆ อย่างกระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า และความต้านทานของฉนวนอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยหรือไม่
- ตรวจสอบระบบสายดินเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว โดยตรวจความถูกต้องของการติดตั้งและการเชื่อมต่อของระบบสายดิน รวมถึงวัดค่าต้านทานฉนวนให้อยู่ในระดับมาตรฐาน
- ตรวจสอบพื้นที่ที่มีสารหรือวัตถุไวไฟ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่เป็นไปตามมาตรฐาน
- บันทึกและจัดทำรายงานผลการตรวจสอบ เพื่อประเมินความเสี่ยงในกรณีที่พบปัญหาจากการตรวจไฟฟ้าโรงงาน แล้วนำมาวิเคราะห์ พร้อมวางแผนซ่อมบำรุงระบบไฟต่อไป
วิธีเลือกช่างตรวจระบบไฟฟ้าโรงงาน ต้องพิจารณาปัจจัยใดบ้าง?
การเลือกช่างตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานถือเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจไฟฟ้าประจำปี เพราะช่างมืออาชีพจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าการดำเนินงานนั้นมีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งวิธีเลือกช่างตรวจรับรองระบบไฟฟ้าโรงงาน สามารถพิจารณาได้จากปัจจัยดังต่อไปนี้
- ผ่านการอบรม และมีใบรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ให้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การดำเนินการตรวจระบบ ตลอดจนการให้คำแนะนำหลังตรวจสอบ
- มีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจระบบไฟฟ้า เข้าใจกฎหมายและมาตรฐานด้านการตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานประจำปี สามารถตรวจสอบระบบไฟฟ้าได้ครอบคลุมและถูกต้องตามกฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน
- มีประสบการณ์ในการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงาน สามารถตรวจสอบระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบุปัญหาอย่างตรงจุด และซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
- มีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่ทันสมัย เพื่อช่วยวัดประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าและคำนวณค่าต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ
ตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานแล้วมีปัญหาต้องทำอย่างไร?
หลังตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานประจำปีแต่ละขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว หากพบปัญหาเกิดขึ้นกับระบบไฟฟ้า อาทิ อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหาย ค่าต่าง ๆ ในระบบไฟฟ้าไม่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หรือการติดตั้งและเชื่อมต่อระบบสายดินไม่ถูกต้อง ควรรีบแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยด่วนเพื่อรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ
โดยการซ่อมบำรุงระบบไฟโรงงานนั้นควรใช้บริการจากช่างมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะ สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ลดปัญหาที่อาจส่งผลเสียระยะยาวต่อระบบ ทำให้ระบบไฟฟ้าในโรงงานกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริการตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานและซ่อมแซมไฟฟ้าแบบครบวงจร จาก “Q-CHANG for Business”
การตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการโรงงานไม่ควรละเลย เนื่องจากเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและความพร้อมใช้งานของระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
ที่ Q-CHANG for Business มีบริการตรวจระบบไฟฟ้าโรงงานและซ่อมแซมไฟฟ้าแบบครบวงจร ด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและมีใบรับรองความรู้ด้านระบบไฟฟ้าในอาคารจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมดำเนินงานตรวจสอบไฟฟ้าโรงงานอย่างละเอียดทุกขั้นตอน โดยใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย หากพบปัญหาเกิดขึ้นก็พร้อมซ่อมแซมทันที ให้คุณมั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ธุรกิจดำเนินต่อได้ไม่มีสะดุด หากสนใจสามารถติดต่อ Q-CHANG for Business เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://biz.q-chang.com/
LINE Official : @qchangforbusiness หรือคลิก https://lin.ee/RZPKb1u
Facebook : Q-CHANG for Business
เบอร์โทร : 097-276-9727