สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ว่ากองทัพเรือโคลอมเบียออกแถลงการณ์ว่า “ปฏิบัติการโอไรอัน” ครั้งล่าสุด สามารถยึดยาเสพติดได้มากกว่า 1,400 ตัน ซึ่งรวมถึงโคเคน 225 ตัน และกัญชา 128 ตัน
ระหว่างเดือน ต.ค.-พ.ย. นี้ มีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 400 คน ภายใต้ปฏิบัติการ ที่ผสานความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่จากสหรัฐอเมริกา บราซิล สเปน เนเธอร์แลนด์ และประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ยึดเรือกึ่งดำน้ำที่ทำจากไม้และไฟเบอร์กลาส ซึ่งบรรทุกโคเคน 5 ตัน ที่กำลังเดินทางจากโคลอมเบียไปยังออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่ค้นพบ “เส้นทางขนยาเสพติด” ของเรือกึ่งดำน้ำยุคใหม่ ซึ่งสามารถเดินทางได้ไกลถึง 10,000 ไมล์ (ราว 16,093 กม.) โดยไม่ต้องเติมน้ำมัน
อนึ่ง โคเคน 1 กิโลกรัมในออสเตรเลีย มีราคาสูงถึง 240,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.2 ล้านบาท) ซึ่งแพงกว่าราคาในสหรัฐถึง 6 เท่า ส่งผลให้เส้นทางนี้ทำกำไรได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาของสินค้าในตลาดออสเตรเลียมีมูลค่าสูง
ขณะเดียวกัน เรือกึ่งดำน้ำของกลุ่มค้ายามีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีโครงสร้างทางวิศวกรรมที่ประณีตมากขึ้น
ปัจจุบัน การลำเลียงยาเสพติดผ่านเส้นทางสายนี้ ถือเป็นการรวมตัวของขบวนการค้ายาจาก เม็กซิโก บราซิล โคลอมเบีย เอกวาดอร์ และเปรู รวมถึงกลุ่มจากยุโรปและโอเชียเนีย.
เครดิตภาพ : Colombian Navy