เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ศูนย์นันทนาการลุมพินี ภายในสวนลุมพินี เขตปทุมวัน นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2567 เป็นประธานแถลงข่าวงานกาชาดประจำปี 2567 “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” ซึ่งจัดโดยกองอำนวยการจัดงานกาชาด โดยคณะกรรมการแผนกประชาสัมพันธ์งานกาชาดประจำปี 2567 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ร่วมเป็นเกียรติและร่วมเสวนาในหัวข้อ “งานกาชาด เพื่อ ประชาชน”
เลขาธิการสภากาชาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2567 กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 สภากาชาดไทยจึงได้จัดงานกาชาดประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อสภากาชาดไทยและพสกนิกรไทย โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 22 ธันวาคม 2567 ณ สวนลุมพินี และที่แพลตฟอร์มงานกาชาดออนไลน์ www.iredcross.org
นอกจากนี้งานกาชาดยังจัดขึ้นเพื่อหารายได้ไปใช้ในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัยแก่ประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยพิบัติ ขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงความทุ่มเทและความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย แม้ว่าจะมาจากหลากหลายภาคส่วน แต่ทุกฝ่ายต่างก็ให้ความร่วมมือและใช้ความเชี่ยวชาญของตนเองมาร่วมกันสนับสนุน ภายใต้ความมุ่งหวังที่จะผลักดันให้การจัดงานกาชาดนั้นสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์
ด้าน นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผอ.สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2567 กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานกาชาดประจำปีนี้ว่า การจัดงานกาชาดในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจขององค์พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย และองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย รวมถึงเป็นการเผยแพร่ภารกิจของสภากาชาดไทยให้ประชาชนได้รับรู้ ยิ่งไปกว่านั้น งานกาชาดยังเป็นกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา มูลนิธิ สมาคม สโมสร ผู้มีอุปการคุณ และประชาชน ตลอดจนเพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย
ขณะที่ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ขอบคุณทางสภากาชาดไทยที่ให้เกียรติสวนลุมพินีเป็นพื้นที่จัดงาน ทั้งนี้สวนลุมพินีมีอายุจะครบ 100 ปีแล้ว ทำให้มีความทรุดโทรมหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นถนน ทางเท้า ไฟส่องสว่าง กทม.จึงมีโครงการใหญ่ในการปรับปรุงสวนลุมฯ มีการทำถนนใหม่ ปูยางใหม่ ติดไฟแสงสว่างใหม่ ซึ่งเสร็จเกือบหมดแล้ว ในภาพรวมแล้วดีขึ้น ถนนเรียบ ทางเท้าดี ไฟสว่าง แต่จะมีพื้นที่บางส่วนที่ยังปิดยังเข้าไม่ได้ เช่น ลุมพินีสถาน เวทีลีลาศ และปัญหาเรื่องห้องน้ำ ซึ่งในพื้นที่สวนลุมฯ มี 9 จุด เป็นห้องน้ำระบบเก่าที่ทำให้น้ำไหลลงบ่อน้ำและส่งผลให้เกิดการเน่าเสีย จึงได้มีการปิดรื้อห้องน้ำใหม่ แต่ยังคงเหลือให้ใช้งานได้อีก 3 ห้อง ทั้งนี้ได้มีการนำห้องน้ำชั่วคราวมาเสริมให้อย่างน้อย 20 คัน เพื่อรองรับการใช้งานของประชาชน
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงเรื่องขนาดพื้นที่จัดงานระหว่างโครงการปรับปรุงสวนลุมพินีว่า ในปีนี้พื้นที่อาจจะเล็กลงไปบ้าง แต่เชื่อว่าทางกาชาดได้คัดเลือกร้านค้าแล้ว ดังนั้นคุณภาพคงไม่ด้อยไปกว่าเดิม ที่พัฒนาขึ้นคือเรื่องเดินทางสะดวกขึ้น เนื่องจากทางเท้าด้านนอกรอบสวนลุมฯ ทำใหม่หมดแล้ว ในส่วนของประชาชนที่มาออกกำลังกายยังสามารถเดินทางมาได้ตามปกติ เพราะได้มีการจัดการจราจรและมีเส้นทางหลากหลาย อย่างไรก็ตาม โดยปกติสวนลุมพินีมีประชาชนมาออกกำลังกายประมาณหลายพันคน แต่งานกาชาดมีประชาชนมาเที่ยวเป็นล้านคน ก็ถือว่าเกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ จึงเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากัน
“สำหรับเรื่องการจัดการขยะ ที่ผ่านมางานกาชาดมีการบริหารจัดการที่ดี สามารถเป็นต้นแบบการคัดแยกขยะได้เพราะมีการคัดแยกอย่างละเอียด อาทิ หลอด น้ำแข็ง เป็นต้น ซึ่งปีนี้ กทม. ได้มีการจัดจุดคัดแยกขยะ 40 จุดทั่วพื้นที่จัดงาน โดยมีพนักงานกวาดฯประจำจุดในการช่วยกันแยกขยะ ทำให้สามารถดูแลเรื่องขยะได้อย่างดีขึ้น รักษ์โลกมากขึ้น ในส่วนของการเดินทางขอให้ใช้ขนส่งสาธารณะ อาทิ BTS MRT รถประจำทาง และ กทม. ได้จัดรถ BMA Feeder รับส่งฟรี นอกจากนี้จะมีการจัดจุดจอดรถแท็กซี่ รถสามล้อให้ด้วย รวมถึงจะปรับปรุงทางม้าลายให้ชัดเจน หัวใจคือขอให้พยายามใช้ขนส่งสาธารณะให้มากที่สุด หากจำเป็นจึงค่อยใช้รถส่วนตัว ด้านการคืนพื้นที่หลังงาน ทางกาชาดจะมีการปลูกหญ้าคืนให้ ส่วนต้นไม้ใหญ่ไม่น่ามีปัญหาเพราะเรามีการดูแลอย่างดี ภาพรวมไม่มีอะไรต้องกังวล” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว
