ถือว่าอาการยังน่าเป็นห่วงจริงๆ สำหรับพรรคการเมืองเก่าแก่และเคยยิ่งใหญ่ อย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” ที่เจ็บหนัก มีบาดแผลเรื้อรังมาตั้งแต่พ่ายแพ้การเลือกตั้งสส.เมื่อปี 2562 นำไปสู่การเปลี่ยนตัวหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคฯ แต่ก็ยังไม่ช่วยให้กอบกู้สถานการณ์ของค่ายสีฟ้าให้แข็งแรงขึ้นได้ และมาเจ็บสาหัสซ้ำอีกในศึกเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2566 ได้สส.แค่ 25 ที่นั่ง ประกอบกับครบวาระที่ต้องเลือกตั้งหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคฯอีกครั้ง

แม้ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ประกาศในวันรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2566 ถึงความมุ่งมั่นเข้ามาแก้วิกฤตให้พรรคฯ เดินต่อไปได้ แต่นับจากนั้นก็ยังไม่เห็นวี่แว่วว่าค่ายสีฟ้าจะฟื้นสภาพตัวเองได้สักที

และยิ่งเสียคะแนนนิยมดิ่งลง แฟนคลับผู้สนับสนุนพรรคยิ่งลดหาย จากการสลัดภาพ “คู่แค้น-คู่แข่ง” กับ“ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย แล้วไปจับมือกันร่วมรัฐบาลสูตรพิสดารที่นำโดย “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี แม้หัวหน้าและแกนนำปชป.ชี้แจงว่าเป็นโอกาสที่พรรคจะได้ทำงานสร้างประโยชน์ให้ประชาชนและประเทศชาติ แต่ดูเหมือนเรื่องนี้ยิ่งกดทับความตกต่ำของค่ายสะตอ

เห็นได้จากผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2567 แชมป์เก่าอย่าง “กนกพร เดชเดโช” อดีตนายกอบจ. และเป็นมารดาของ “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ พ่ายแพ้ให้กับ “วาริน ชิณวงศ์” ผู้ท้าชิงจากทีม“นครเข้มแข็ง”ที่ได้แรงหนุนจาก “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.แรงงาน และแกนนำพรรคภูมิใจไทย

มีกระแสข่าวว่าเพราะคนในพื้นที่ไม่ค่อยพอใจกับผลงานของแชมป์เก่า จึงต้องการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญ คนเมืองคอนลงโทษ“ประชาธิปัตย์” ที่เปลี่ยนจุดยืนไปข้ามขั้วอยู่กับ“เพื่อไทย” และ“ชัยชนะ”เป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนในเรื่องนี้ รวมถึงปชป.ยังขาดเสียงสนับสนุนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่        

แม้เป็นสนามระดับท้องถิ่น แต่ย่อมมีผลต่อสนามเลือกตั้งระดับชาติเช่นกัน ขณะที่จ.นครศรีธรรมราชเป็นหนึ่งในฐานเสียงใหญ่ที่ปชป.เคยครอบครองทั้งจังหวัด แต่กลับถูกคู่แข่งบุกตีแตกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเสาไฟฟ้ายี่ห้อ “ประชาธิปัตย์” ถูกถอนออกไปแทบจะร่อยหรอ

นอกจากนี้ ต้องจับตาอีกหนึ่งฐานเสียงสำคัญของปชป. คือการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลาในวันที่ 1 ก.พ.2568 แทน “ไพเจน มากสุวรรณ์” ที่จะหมดวาระในเดือนธ.ค.2567 โดย “เดชอิศม์ ขาวทอง” รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการปชป. เปิดตัว “สุพิศ พิทักษ์ธรรม” หัวหน้าทีมสงขลาพลังใหม่ ลงชิงชัย แต่มีกระแสข่าวว่า “พิพัฒน์” แม่ทัพของ“ภูมิใจไทย” อาจจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่ง “ถาวร เสนเนียม” อดีตรัฐมนตรี และอดีต สส.สงขลาหลายสมัย ลงสนามนี้ด้วย

ศึกเลือกตั้งในภาคใต้เวลานี้ท้าทายฝีมือของ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” และเหล่าแม่ทัพค่ายสะตอที่ต้องรีบตีโจทย์ให้แตก เร่งกู้สถานการณ์ เพื่อนำไปสู่ชัยชนะและรักษาฐานที่มั่นไว้ มิฉะนั้นอาจถึงคราวสูญพันธุ์ในปักษ์ใต้ซ้ำรอยกับสนามกทม.