การมีผิวเรียบเนียน ขาวใสสม่ำเสมอทั้งตัว จะต้องเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเซลล์ผิว ควบคู่กับการทาสกินแคร์สม่ำเสมอ และต้องอาศัยเวลาในระดับหนึ่งถึงจะเห็นผล ทำให้การดริปวิตามินเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะใช้การฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดโดยตรงผ่านทางสายน้ำเกลือ ร่างกายจึงดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น เห็นผลไวกว่า
สำหรับคนที่สนใจ IV Drip แต่ยังมีข้อสงสัย เช่น ดริปวิตามินช่วยเรื่องอะไร, ต้องดริปวิตามินกี่ครั้งถึงเห็นผล, การดูแลตนเองหลังดริปวิตามิน, ดริปวิตามินอันตรายไหม และเลือกดริปวิตามิน ที่ไหนดี? หาคำตอบได้ในบทความนี้
ดริปวิตามิน คืออะไร ต่างจากแบบทานหรือไม่?
ดริปวิตามิน หรือ IV Drip คือการให้วิตามินทางเส้นเลือดโดยตรง ทั้งจากทางสายน้ำเกลือและเข็มฉีดยา ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้มากกว่า 90% ถึง 100% ต่างจากวิตามินแบบทานที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้เพียง 50% เท่านั้น เนื่องจากต้องผ่านการย่อยและดูดซึม
อีกทั้งการดริปวิตามินยังช่วยให้ร่างกายนำไปใช้ฟื้นฟูส่วนต่าง ๆ ได้ทันที ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส ผิวนุ่มเด้งดูสุขภาพดีมากขึ้น หลังจากนั้นวิตามินส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ ไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
โดยปัจจุบันมีสูตรดริปวิตามินให้เลือกอย่างหลากหลาย ก่อนทำหัตถการจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อให้สามารถเลือกสูตรดริปวิตามินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคลมากที่สุด
การดริปวิตามิน ข้อดี/ประโยชน์/ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ประโยชน์ของการดริปวิตามิน คือมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการอ่อนเพลีย ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการขาดวิตามินในคนที่ทานอาหารไม่หลากหลาย เช่น ผู้สูงอายุที่ไม่อยากอาหาร มักขาด Vitamin B12 และ D3 สามารถฉีดวิตามินเสริมแทนการกินเพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
นอกจากนี้ การดริปวิตามินยังมีประโยชน์ด้านความงาม เพราะสามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึก ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส นุ่มลื่น ลดความหมองคล้ำ พร้อมเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น และช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดด มลภาวะ ทำร้ายจนเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ
การดริปวิตามิน เห็นผลทันทีหลังทำหรือไม่
ดริปวิตามินเป็นการเติมสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินต่าง ๆ ที่มีประโยชน์มาละลายในสารน้ำ แล้วจึงฉีดเข้าไปผ่านทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่าย แม้จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วกว่าแบบทานและทาลงผิว แต่การดริปวิตามินก็ยังต้องรอเวลา เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง ควรทำอย่างน้อย 3-4 ครั้งขึ้นไป ไม่สามารถเห็นผลทันทีหลังทำ
ดริปวิตามิน ควรมีความถี่ที่เหมาะสม โดยในช่วง 1 เดือนแรกควรดริปสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อปรับสภาพให้ผิวดีขึ้นในระดับหนึ่งก่อน จากนั้นสามารถเว้นระยะ 2-3 สัปดาห์ได้ หากต้องการให้ผิวใส ดูมีออร่ายิ่งขึ้น ควรใส่ใจเรื่องอาหารให้มาก และทาสกินแคร์เป็นประจำ
ขั้นตอนการดริปวิตามิน
ขั้นตอนดริปวิตามิน มีดังนี้
- รับการตรวจร่างกาย อาทิ ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร น้ำหนัก ส่วนสูง รวมถึงการซักประวัติแพ้ยา โรคประจำตัว ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดความกังวล
- แพทย์ทำการประเมินและคำนวณปริมาณ ความเข้มข้น พร้อมเลือกสูตรที่เหมาะสมสำหรับดริปวิตามินในแต่ละบุคคล
- เช็ดทำความสะอาดบริเวณข้อมือหรือข้อพับ เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคปนเปื้อน
- การดริปวิตามิน หากใช้เข็มฉีดยาเข้าบริเวณเส้นเลือดดำโดยตรง แพทย์จะต้องเป็นผู้ทำหัตถการให้เอง จนครบปริมาณที่ได้กำหนดเอาไว้ มักใช้เวลาราว 10-15 นาที ส่วนการดริปวิตามินผ่านสายน้ำเกลือ จะต้องรอจนสารน้ำหมดถุง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างนี้สามารถนั่งพักหลังหรือดูมือถือเพื่อฆ่าเวลาได้
- หลังทำหัตถการ สามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องพักฟื้น
การดูแลตนเองหลังจากการดริปวิตามิน
หลังดริปวิตามิน ผลลัพธ์จะคงอยู่ราว 1-2 เดือน ตามการดูแลตัวเองหลังฉีดวิตามิน หากต้องการให้ผิวสวยเปล่งประกายยาวนาน สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่
- ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดูสดใส
- ไม่สัมผัสแดดโดยตรง ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 ขึ้นไป และใช้อุปกรณ์ป้องกันแสงแดด
- หลีกเลี่ยงหรือเลิกสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเต็มไปด้วยสารพิษที่ส่งผลเสียต่อร่างกายและผิวพรรณ เช่น นิโคตินในบุหรี่ จะทำให้ผิวมีริ้วรอย เหี่ยวย่น แห้งกร้าน หมองคล้ำ ผิวแก่กว่าวัย เช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ที่ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น ทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น เพื่อรักษาความชุ่มชื้น
- ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ
สรุป ดริปวิตามิน ช่วยบำรุงสุขภาพ เพิ่มความเปล่งประกายให้ผิว
ดริปวิตามิน คือ การเติมสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าไปในร่างกาย เพื่อเพิ่มความเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น และเรียบเนียนให้ผิว อีกทั้งยังช่วยบำรุงสุขภาพ ลดความอ่อนล้า เพิ่มความสดชื่นแก่ร่างกาย
การดริปวิตามิน จะเห็นผลได้เร็วกว่าการทานหรือทาครีมบำรุงผิว เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที ควรทำอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดี โดยสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และตรวจร่างกายเบื้องต้นก่อนดริปวิตามิน ได้ที่ S’RENE by SLC คลินิกสุขภาพของคนเมือง พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพแก่ทุกคน