เมื่อวันที่ 26 พ.ย. พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช. รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 พ.ต.อ.กู้เกียรติ วงษ์พันธ์ ผกก.2 บก.สอท.5 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ กก.4 บก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.บก.สอท.5 ได้มีการกำหนดเป้าหมายระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด การสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บัญชีม้า การหลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์ คดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การพนันออนไลน์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ภายหลังสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับต่าง ๆ ได้รวม 22 ราย
โดย พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งรัดปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมไปถึงการสร้างการรับรู้ให้กับภาคประชาชน เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์ พร้อมทั้งจับกุมผู้ต้องหา 22 ราย
ทั้งนี้ การดำเนินการของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ยังคงมุ่งเน้นในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสำคัญ แม้ว่าที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนจะร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง แต่ในปัจจุบันยังคงพบเห็นการซื้อขายสิ่งของผิดกฎหมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อขายบัญชีธนาคาร หรือบัญชีม้า ไม่ว่าท่านจะถูกหลอกลวง หรือเต็มใจเปิดบัญชีเพื่อแลกเงินค่าตอบแทนเล็กน้อย ก็ถือว่าเป็นความผิดในฐานะตัวการร่วม หรือเป็นผู้นับสนุนการกระทำความผิด และจะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน หากพบเบาะแสการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือพบข้อขัดข้องใดๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนตำรวจไซเบอร์ หมายเลข 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งความออนไลน์ได้ ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com