สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ว่า นายยาน เอเกอลันด์ หัวหน้าสภาผู้ลี้ภัยนอร์เวย์ (เอ็นอาร์ซี) กล่าวว่า นอกจากสองฝ่ายหลักที่ทำสงครามกันในซูดาน ได้แก่ กองทัพซูดาน และกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว (อาร์เอสเอฟ) ประเทศยังมี “กองทัพชาติพันธุ์” ขนาดเล็กหลายกลุ่ม ที่ปล้นสะดมและทำร้ายพลเรือน
ตลอดช่วงเวลา 16 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลทหารซูดานและอาร์เอสเอฟ ต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันอย่างโหดร้าย ส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 10 ล้านคน ต้องหนีออกจากบ้านของพวกเขา และประเทศกำลังจะเผชิญกับภาวะอดอยาก
“สิ่งที่ผมเห็นทั้งหมดเป็นเครื่องยืนยันว่า นี่คือภาวะฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ที่สุดที่เราติดตาม และถือเป็นวิกฤติความหิวโหยครั้งใหญ่ที่สุด และวิกฤติการพลัดถิ่นครั้งใหญ่ที่สุดด้วย” เอเกอลันด์ กล่าวหลังเดินทางเยือนซูดาน
เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ระบุว่า ภาวะอดอยากในซูดาน “เกิดขึ้นแทบทุกที่” ซึ่งเอเกอลันด์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การขาดการตอบสนองด้านมนุษยธรรม ทำให้แหล่งความช่วยเหลือที่เหลืออยู่ เป็นเพียงวิธีชะลอการเสียชีวิต แทนการป้องกันการเสียชีวิต
ทั้งนี้ เอเกอลันด์เตือนว่า โลกกำลังทำให้ซูดานรู้สึกผิดหวังโดยสิ้นเชิง เนื่องจากไม่ดำเนินการมากพอ และถ้ายุโรปต้องการหลีกเลี่ยงวิกฤติผู้อพยพ ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องลงทุนในความช่วยเหลือ การคุ้มครอง และสันติภาพในส่วนนี้ของโลก.
เครดิตภาพ : AFP