เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ตำรวจสภ.ห้วยหลวง จ.อุดรธานี รับแจ้งจากนางลำดวล อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ว่า นายทิว อายุ 25 ปี ลูกชายมีพฤติกรรมติดยาบ้า ไม่ยอมทำงาน เอาแต่รีดไถเงินแม่ทุกวันไปซื้อยาบ้าเสพ พอไม่มีเงินให้ก็จุดไฟเผาบ้าน โชคดีที่ญาติมาพบและช่วยกันดับทัน ซึ่งญาติได้ถ่ายคลิปวิดีโอขณะจุดไฟเผาสิ่งของภายในบ้านไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะแจ้งตำรวจลูกชายหลบหนีไปก่อนที่ตำรวจจะมาถึง ทำให้ตนเองไม่กล้าเข้าไปนอนในบ้านเกรงว่าลูกชายจะย้อนกลับมาเผาบ้านอีก
นางลำดวน เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทำงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวในตัวเมืองอุดรธานี ได้ค่าจ้างวันละ 400 บาท ส่วนสามีเป็น รปภ. มีลูกคนเดียวคือนายทิว ซึ่งตนและสามีรักมาก ลูกอยากได้อะไรก็หาให้ทุกอย่าง ต่อมาลูกชายติดยาบ้างอมแงมไม่ยอมทำงานเอาแต่ขอเงินไปซื้อยาบ้า แถมยังเล่นการพนันออนไลน์ ตนไปทำงานลูกก็ขี่รถไปขอเงินครั้งละ 200 บาท ไปวันละ 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 400 บาท ถ้าไม่ให้ก็จะยืนอยู่ที่ร้านไม่เกรงใจเจ้าของร้าน ตนก็ต้องให้ทุกครั้ง วันไหนขอเงินได้ไม่ทันใจลูกก็กลับมาบ้าน ขนตู้เย็น กับเครื่องซักผ้าไปขายร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินก็เอาไปซื้อยาบ้าเสพ
พอไม่มีสิ่งของในบ้านขายก็จะทุบทำลายข้าวของในบ้าน บานประตูก็แกะออกเอาอลูมิเนียมไปขาย หนักเข้าขู่จะเผาบ้าน ตนกลัวมากไม่กล้านอนที่บ้าน ต้องเร่รอนไปนอนตามบ้านญาติ หรือไปนอนที่สามีไปเป็น รปภ. เพราะเกรงว่าลูกจะหลอนยาแล้วฆ่าปาดคอ ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวานนี้ตนไม่ได้ให้เงินลูกจึงกลับมาเผาบ้าน โชคดีที่น้องสาวตนมาพบจึงได้ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับแจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งตำรวจ พอผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาถามว่าเผาทำไม นายทิวก็ตอบว่าเผาขยะ ขี้เกียจเอาออกไปเผานอกบ้าน จากนั้นก็ขี่รถหลบหนีไป
จากนั้นไม่นาน นายทิว ผู้ก่อเหตุได้ย้อนกลับมาบ้าน ร.ต.ท.เชษฐา คันธบุปผา และร.ต.ต.ประวิทย์ ทองสุ รอง สวป.สภ.ห้วยหลวง จึงได้นำกำลังพร้อมไม้ง่ามเข้าควบคุมตัวนายทิว ซึ่งนั่งอยู่ในห้องนอน และยอมให้ตำรวจควบคุมตัวแต่โดยดีไม่มีท่าทีขัดขืน โดยตำรวจสอบถามว่าได้เผาบ้านหรือไม่ นายทิวตอบว่า เผาขยะเฉยๆ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น” ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย