เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 67 ที่บริเวณจุดก่อสร้างพนังป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี บ้านคุยค้อ หมู่ 6, 11 และหมู่ 17 ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ดร.ฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด เขต 2 พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามปัญหาพนังป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชีเกิดการทรุดตัวเป็นระยะทางยาว หลังชาวบ้านเดือดร้อนหวั่นวิตก และส่งเรื่องขอความช่วยเหลือให้ประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งดำเนินการแก้ไข โดยมีนายสัมฤทธิ์ นรทีทาน รองนายกเทศมนตรีตำบลดินดำ นายพัฒนา สุขสำราญ ผู้ใหญ่บ้านคุยค้อ หมู่ 11 พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ร่วมให้ข้อมูล
ดร.ฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด เขต 2 พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนและชาวบ้านคุยค้อ ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ว่าพนังป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี จุดบ้านคุยค้อ ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่และส่งมอบงานเร็วๆ นี้ เกิดการทรุดตัวเป็นระยะทางยาว จึงได้มาติดตามสภาพปัญหา ทราบว่าเป็นโครงการของกรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณ 40 ล้านบาท โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณเมื่อปี 2564 และดำเนินการก่อสร้างในปี 2565 เพิ่งแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบพบว่า เกิดการทรุดตัวระยะทางยาวประมาณ 214 เมตร จากความยาวทั้งหมด 516 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่าโครงสร้างของตัวพนังถึงตลิ่งที่เป็นหินเรียง ก็ยังเกิดการขยายตัวเป็นแนวยาว และเสี่ยงตัวการทรุดตัวอีกด้วย ทั้งนี้ หลังจากได้ลงพื้นที่ดูสภาพปัญหาแล้ว ก็จะนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการฯ และที่ประชุมสภา เพื่อดำเนินการเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการกแก้ไขต่อไป
ด้านนายสัมฤทธิ์ นรทีทาน รองนายกเทศมนตรีตำบลดินดำ กล่าวว่า จุดที่พนังที่เพิ่งสร้างเสร็จและส่งมอบงานทรุดตัวดังกล่าว เคยเกิดการทรุดตัวแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อราวเดือน ก.พ. 67 ขณะทำการก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องทำการรื้อระบบและก่อสร้างพนังเป็นครั้งที่ 2 แต่พอปลายเดือน ต.ค. 67 สังเกตเห็นตัวพนังมีเริ่มรอยปริ ร้าว หลังส่งมอบงานต้นเดือน พ.ย. ไม่กี่วัน ก็เกิดการทรุดตัวอีก จึงได้ร้องเรียนถึง ดร.ฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด เขต 2 พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะอยากให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดความคุ้มค่า และได้พนังที่มีความมั่นคง แข็งแรง สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ผล ในช่วงนี้ที่เป็นช่วงน้ำลด จึงอยากให้ทางผู้รับเหมามาดำเนินการก่อสร้างโดยเร็ว ก่อนที่จะถึงฤดูน้ำหลาก ส่งผลกระทบต่อตัวพนัง ที่อาจจะเกิดการทรุดตัวและพังทลาย สร้างคามเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรและที่พักอาศัย เหมือนที่เคยเกิดเมื่อปี 2565