หลุยส์ กาเบรียล ซานตามาเรีย หนุ่มนิวยอร์กวัย 27 ปี เล่าว่า เขากลับบ้านเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาและพบว่าเจ้า “คิธ” สุนัขพิตบูลที่เขารักนอนตายอยู่บนทางเท้า
ก่อนหน้านั้น เพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันคนหนึ่งของเขาบุกเข้ามาในอพาร์ตเมนต์ของเขาเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. หลังจากที่ทะเลาะวิวาทกันจากที่อื่น เพื่อนคนนี้เป็นคนโยนสุนัขวัย 2 ขวบลงจากระเบียงของห้องพักชั้นที่ 14 ในอาคารอพาร์ตเมนต์เลขที่ 220 ถนนมอนต์โกเมอรี ในย่านบรูคลิน นครนิวยอร์ก
“ผมเลี้ยงมันมาตั้งแต่มันยังเป็นลูกหมา ตั้งแต่ตอนอายุแค่ 1 เดือน มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมจริงๆ” เจ้าของสุนัขที่หัวใจสลายให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว “ผมไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะทำอย่างนั้น มาฆ่าสุนัขของผมโดยไม่มีเหตุผล”
อัลเบอร์โต มอร์ริส วัย 33 ปี ซึ่งเป็นคนโยนเจ้าคิธลงจากตึก โดนจับกุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตำรวจตั้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์โดยเจตนา, ลักทรัพย์, ครอบครองทรัพย์สินที่ถูกขโมยมาโดยผิดกฎหมาย, ทำลายทรัพย์สินและทารุณกรรมสัตว์
มอร์ริสไม่เคยมีประวัติโดนจับกุมมาก่อนและได้รับการปล่อยตัวเมื่อต้นสัปดาห์นี้หลังจากนำตัวขึ้นศาลเพื่อยื่นฟ้องโดยสำนักงานอัยการรัฐ เนื่องจากข้อกล่าวหาของเขาเป็นข้อหาประเภทที่ไม่ให้สิทธิประกันตัวภายใต้กฎหมายของรัฐ ซึ่งหมายความว่าทางการไม่สามารถคุมขังเขาได้ เว้นแต่เขาจะได้รับการตัดสินโทษว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา
ซานตามาเรียกล่าวว่าเขายังคงมีอาการของโรค PTSD (โรคเครียดหลังจากเผชิญเหตุการณ์สะเทือนขวัญ) รวมถึงมีอาการหวาดผวาเพราะเขาไม่แน่ใจว่า มอร์ริสจะลงมือทำอะไรเขาหรือเปล่า และเขาเองก็ยังไม่รู้จักมอร์ริสดีพอ
ซานตามาเรียพบกับมอร์ริสไม่กี่สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมสุนัขที่น่าสงสาร โดยทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทและผูกพันกันเพราะมีพื้นเพมาจากประเทศปานามาเช่นเดียวกัน มอร์ริสซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับซานตามาเรียเพิ่งอพยพมายังสหรัฐอเมริกาเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน เจ้าของสุนัขผู้สูญเสียกล่าวว่า ชายที่นิยมความรุนแรงนี้กลายเป็นคนขี้หวงและหมกมุ่น เขามักส่งข้อความแปลกๆ มาให้ หรือไปโผล่ที่บ้านของซานตามาเรียและกดกริ่งเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
ในคืนที่เกิดเหตุการณ์นั้น ทั้งสองได้ไปงานปาร์ตี้ฮาโลวีนที่เมืองวิลเลียมส์เบิร์ก ซึ่งมอร์ริสดื่มจนเมาและแสดงกิริยาก้าวร้าว ทำให้ซานตามาเรียรู้สึกกลัว เขายังบอกเพื่อนคนอื่น ๆ ว่ามอร์ริสพยายามจะลงไม้ลงมือกับเขา รวมถึงกระชากกระเป๋าสะพายติดตัวเขาจนสายขาด
ซานตามาเรียเล่าว่าพวกเขาผลักกันไปผลักกันมา และในระหว่างนั้นเองที่มอร์ริสขโมยกุญแจบ้านของเขาไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว จนกระทั่งพนักงานรักษาความปลอดภัยไล่มอร์ริสออกไปจากสถานที่ดังกล่าว
หลังจากนั้นไม่นาน ซานตามาเรียก็รู้ตัวว่ามอร์ริสเอากุญแจบ้านของเขาไป เขารีบเรียกรถอูเบอร์เพื่อเดินทางกลับบ้าน ขณะเดียวกันก็โทรศัพท์หาเพื่อน ๆ ให้ช่วยไปดูที่อพาร์ตเมนต์ของเขาอย่างเร่งด่วน เพราะกลัวว่ามอร์ริสจะบุกเข้าไปในห้องพักของเขา
แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป มอร์ริสเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของซานตามาเรียได้ก่อนแล้ว เขาจับเจ้าคิธโยนลงมาจากระเบียงห้อง จากนั้นก็พยายามจะทำลายกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนผนังก่อนที่จะหลบหนีไป
ซานตามาเรียกลับมาเจอศพของคิธบนทางเท้าหน้าอาคารอพาร์ตเมนต์พร้อมกับเพื่อนที่เป็นคนให้สุนัขตัวนี้มา ทั้งสองร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า นอกจากนี้ ซานตามาเรียยังบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นก็ทำให้ทั้งครอบครัวของเขารู้สึกช็อกมาก
“ผมอยากรู้จริงๆ ว่าทำไมเขาถึงเป็นอิสระหลังจากที่เขาทำเรื่องแบบนี้ ผมไม่คิดว่า เราควรปล่อยฆาตกรประเภทใดก็ตามไว้นอกคุก” ซานตามาเรียกล่าว
อย่างไรก็ตาม อัยการกล่าวว่า แม้มอร์ริสจะได้รับการปล่อยตัว แต่เขาก็ยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของทางการจนกว่าจะถึงวันขึ้นศาลครั้งต่อไป
สำหรับความผิดข้อหาทารุณกรรมสัตว์นั้น ตามกฎหมายรัฐนิวยอร์กถือว่าเป็นความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี
ที่มาและเครดิตภาพ : nypost.com
