เมื่อวันที่ 22 พ.ย. เวลา 10.00 น. ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนพิษณุโลก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี พร้อมแนวร่วมคนคลั่งชาติ ยื่นหนังสือพร้อมด้วยรายชื่อประชาชน 104,697 รายชื่อ ถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในไหล่ทวีป พ.ศ. 2544 ทั้งนี้ นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว
โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนขอประณามรัฐบาลชุดนี้ว่าขายชาติ เพราะท่านต้องการแสวงหาผลประโยชน์ทางพลังงานเท่านั้น โดยไม่สนใจการเสียดินแดนทางทะเล และนายกรัฐมนตรีมักบิดเบือนประชาชนว่าเกาะกูดเป็นของไทย แต่เมื่อถามว่าทะเลรอบเกาะกูดของไทยหรือไม่นั้น นายกฯ กลับไม่ตอบ ดังนั้น เอ็มโอยูฉบับปี 2544 จึงเป็นปัญหาที่นำไปสู่วิกฤติระหว่างประเทศ และอาจทำให้ไทยเสียดินแดนทางทะเลในอนาคต นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเจรจาเขตแดนเฉพาะส่วนบน แต่ส่วนล่าง แบ่งผลประโยชน์ไม่เจรจาเขตแดน ซึ่งจะทำให้เราเสียดินแดนได้ในอนาคต นอกจากนี้ นายกฯ มักย้ำว่ายกเลิกเอ็มโอยูฉบับนี้ไม่ได้ ขณะที่บางคนบอกว่ายกเลิกได้ สรุปแล้วจะให้เชื่อใคร แต่ตนมองว่าสามารถยกเลิกได้
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า เรานำ 104,687 รายชื่อ มาย้ำเตือนและมีเรียกร้องรัฐบาล 3 ข้อ คือ 1.ขอให้ยกเลิกเอ็มโอยูฉบับปี 2544 ที่สร้างปัญหาแก่บ้านเมือง และจะนำไปสู่การเสียดินแดน 2.การเจรจาต้องอยู่บนหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศที่เหมือนกัน และหากจะเจรจา ต้องเรียกร้องให้กัมพูชาเข้าร่วมสนธิสัญญา อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลแล้วมาเจรจา (UNCLOS) ค.ศ. 1982 3.อย่าให้มีการนำไปสู่การขุดผลประโยชน์ทางพลังงานแบ่งกันเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไทยเสียดินแดนทางทะเล
“รัฐบาลอย่าสบประมาทพวกเรา วันนี้เรามาเตือนคุณ ทุกคนหวงแหนชาติบ้านเมือง ประเทศนี้ไม่ใช่ของพวกคุณคนเดียว ไม่ใช่ตระกูลของพวกคุณ คนไทยฝากถามว่าตระกูลของคุณ กับกัมพูชา มีอะไรกันหรือเปล่า ทำไมถึงยอมเขา นี่คือการเตือน ถ้าคุณยังไม่ฟัง รอบหน้าแสนคนนี้จะมาที่ทำเนียบรัฐบาล” นพ.วรงค์ กล่าว
เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากไม่มีสัญญาณตอบรับกลับจากรัฐบาล นพ.วรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายภาคส่วนที่กังวลใจในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ตนแฮปปี้มากที่สุดในตอนนี้ คือกองทัพเรือขยับและดำเนินการในเรื่องนี้ ตนจึงขอชื่นชมผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ที่ยืนยันว่ากองทัพเรือได้ลาดตระเวนตามที่ประเทศไทยประกาศ และจะจัดการเสวนาแบบเปิดใจ ทั้งนี้ ตนขอท้าดีเบตกับรัฐบาล หากรัฐบาลไม่กล้า ก็ลาออกไปเลย