เมื่อวันที่ 21 พ.ย. สืบเนื่องจากตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐปราบปรามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด เนื่องจากเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงและเป็นต้นเหตุของการเกิดอาชญากรรมในสังคม อันจะส่งผลกระทบต่อประชาชนและสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัด กวดขันสืบสวน ปราบปรามจับกุม ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกข้อหา มุ่งเน้นข้อหาความผิดร้ายแรง ได้แก่ การครอบครองยาเสพติดเพื่อการค้า จำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก สมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือแก่กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด

ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฎพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.อติชาติ แย้มผกา พ.ต.ท.มนูญ กู้เมือง รอง ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ร้องเกาะเกิด สว.กก.สส.บก.น.1 นำกำลังจับกุมจับกุมผู้ต้องหา ได้จำนวน 1 ราย พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 5 กิโลกรัม โดยจับกุมได้ที่บริเวณภายในซอยจ่าเหวก ถนนวัดใหญ่ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

พฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าตำรวจ กก.สส.บก.น.1 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายไทย ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 50-55 ปี มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับบุคคลทั่วไป และจะเก็บยาเสพติดไว้ภายในรถแท็กซี่ สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทห 6231 กรุงเทพมหานคร ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเฝ้าสืบสวนหาข่าว จนกระทั่งพบผู้ต้องหา ตำหนิ รูปพรรณ ตรงตามที่สายลับแจ้ง ลักณะท่าทางมีพิรุธ จึงได้เข้าไปทำการตรวจค้น ขยายผลพบยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม เก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้านกลางทุ่งนา

เบื้องต้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งเผยถึงสาเหตุลงมือทำเพื่อเป็นการหารายได้เสริมจากการขับรถแท็กซี่ แจ้งข้อกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาไอซ์ ) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อ จำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เป็นการก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชนโดยทั่วไป” นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.