คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเกิดเปลี่ยนแปลงมากมายหลายส่วน ซึ่งทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และอ่อนเพลีย หญิงตั้งครรภ์บางคนจึงหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย ทั้งที่มีประโยชน์อย่างมาก
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บอกเล่าสาระความรู้เรื่องการออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์ มีความจำเป็นและสำคัญมาก ส่งผลดีมากมายต่อสุขภาพร่างกายของคุณแม่
@ ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้คุณแม่รู้สึกปลอดโปร่ง สดชื่นสบายตัว กระฉับกระเฉง
@ ช่วยลดอาการปวดเมื่อยที่หลัง
@ ลดอาการเป็นตะคริว
@ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานแข็งแรงขึ้น สามารถรับน้ำหนักที่เพิ่มในขณะตั้งครรภ์
@ ช่วยเพิ่มพลังและความอดทนเมื่อต้องเจ็บครรภ์เป็นเวลานานและตอนเบ่งคลอด
@ ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
@ การขับถ่ายปกติ ไม่มีปัญหาท้องผูก
@ ช่วยเผาผลาญไขมัน ทำให้คุณแม่รับประทานอาหารได้มากขึ้นโดยไม่อ้วน แถมได้ประโยชน์กับลูกน้อยอีกด้วย
@ ช่วยให้คลอดง่ายกว่าคุณแม่ที่ไม่ออกกำลังกาย และช่วยให้คุณแม่จะฟื้นตัวเร็วหลังการคลอดอีกด้วย
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรออกกำลังกายอย่างไร
การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ คือ การเดิน ปั่นจักรยานอยู่กับที่ การเต้นแอโรบิกในน้ำหรือบนบกแบบเบาๆ การว่ายน้ำ การบริหารแบบยืดเส้น การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ แต่ต้องไม่หักโหมจนเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายคุณแม่เหนื่อยหอบ ขาดออกซิเจน ซึ่งจะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ ถือว่าอันตรายมาก
สำหรับคุณแม่ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เมื่อเปลี่ยนมาออกกำลังกายในขณะตั้งครรภ์ ควรลดเวลาและลดความรุนแรงลง โดยอาจเปลี่ยนเป็นการเดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ส่วนคุณแม่ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน และมาออกกำลังกายในช่วงที่มีการตั้งครรภ์ จะต้องระมัดระวัง ควรออกกำลังกายประเภทเบาๆ อาทิ เดิน โยคะท่าง่าย
ที่สำคัญ ควรมีการวอร์มอัพ และคูลดาวนทุกครั้งที่มีการออกกำลังกาย คือ ค่อยๆเพิ่มความแรงความเร็ว และลดความแรงความเร็วลง จนหยุดออกกำลังกาย อีกทั้งควรดื่มน้ำเพื่อชดเชยการเสียน้ำจากร่างกาย และหากพบว่าชีพจรเต้นเร็วจนรู้สึกเหนื่อย (หรือถ้าสามารถวัดชีพจรได้ขณะออกกำลังกายและพบว่ามากกว่า 140 ครั้งต่อนาที) ให้หยุดและพักผ่อน
กรณีของคุณแม่บางรายที่มีปัญหาเรื่องโรคประจำตัว หรือมีปัญหาสุขภาพ อาทิ มีน้ำหรือเลือดออกทางช่องคลอด มีการเกร็งตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือมีโอกาสการคลอดก่อนกำหนด ไม่ควรวิ่งหรือนอนคว่ำ ไม่เล่นเวทที่หนักมาก อย่ากลั้นหายใจขณะออกกำลังกาย ไม่แอ่นตัว ก้มตัวมาก ไม่ซิทอัพ หรือเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ไม่กระแทกหรือมีแรงกดดันบนข้อต่อสะโพกและเข่า และไม่นอนหงายเป็นเวลานาน
นอกจากนั้น คุณแม่ที่มีอายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป ไม่ควรออกกำลังกายท่านอน เพราะมดลูกจะกดเส้นเลือดทำให้เลือดไปเลี้ยงมดลูกน้อยลง และไม่ควรยืนนานจนเกินไป.
