เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ร.ต.อ.พงษ์พิชิต ธนาพันธ์ภักดี รอง สว.สอบสวน สภ.มัญจาคีรี ได้รับแจ้งพบศพชายเสียชีวิตในไร่อ้อย บ้านหนองโน ม.5 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ฟอร์ด สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บห- 5500 ขอนแก่น ตกอยู่ข้างทางในป่าอ้อย กระจกรถเปิดไว้ทั้งสองข้าง และประตูรถฝั่งคนขับเปิดทิ้งไว้ ในรถพบกุญแจรถเสียบคารูกุญแจในตำแหน่งสตาร์ท และเกียร์รถก็อยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง ใกล้กันพบร่างนายหนูเพน อายุ 68 ปี อยู่ข้างประตูรถฝั่งคนขับในสภาพขาข้างขวาถูกล้อหน้าเหยียบจนถึงโคนขา ขาซ้ายพาดอยู่ขอบล่างของประตู คาดเสียชีวิตมาประมาณ 5 วัน จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู่หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด

สอบสวนนางบุญเลี้ยง อายุ 62 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ช่วงสายของวันที่ 15 พ.ย. สามีได้ไปส่งตะไคร้ให้ตนที่ตลาด จากนั้นก็บอกว่าจะไปขุดตะไคร้ เตรียมมาส่งให้ลูกค้าในวันต่อไป พร้อมทั้งบอกอีกว่าจะไปหาลูกสาวที่นา จนเช้าวันที่ 16 พ.ย. ก็ยังไม่เห็นสามีกลับมา ติดต่อทางโทรศัพท์ โทรติดแต่ไม่มีคนรับสายจนผ่านไป 3 วันก็โทรติดต่อไม่ได้ ลูกเมียพยายามตามหาแต่ก็ไม่มีวี่แวว จนเช้าวันนี้ญาติได้บอกกับลูกเขยว่า ฝันเห็นสามีตนมาบอกว่า ให้ดูแลตนเพราะยังเก็บผักบุ้งในหนองน้ำใกล้ป่าอ้อยไม่เสร็จจึงยังกลับบ้านไม่ได้ จากนั้นก็เดินไปดูที่หนองน้ำที่สามีเคยไปเก็บผักบุ้งก็เห็นรถกระบะตกอยู่ข้างทางและพบว่าสามีเสียชีวิตแล้วจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่

“จากสภาพศพคิดว่าสามีขับรถกระบะมาคนเดียวอาจจะมาถึงแล้วมืดข้างทางมีร่องน้ำที่ไหลจากคลองจึงไปต่อไม่ได้ คาดว่าน่าจะถอยรถกลับทางเดิม ด้วยความมืดรถจึงตกลงไปในป่าอ้อยข้างทางที่มีหญ้าขึ้นรถ ไม่มีผู้คนผ่านเพราะเป็นถนนกลางไร่อ้อยจึงไม่มีคนพบเห็น สามีน่าจะพยายามใช้แม่แรงยกรถขึ้น โดยใช้ขาซ้ายเยียบคันเร่งแต่จึงเสียหลักไหลเหยียบขาขวาจนถึงโคนขาบาดเจ็บช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทำให้เสียชีวิต เมื่อตรวจสอบในรถก็พบโทรศัพท์อยู่ในลิ้นชักหน้ารถ ครอบครัวจึงหายสงสัยและขอรับศพสามีกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป” นางบุญเลี้ยง กล่าว