สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองโบคาชิกา เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ว่าทรัมป์ปรากฏตัวพร้อมสวมหมวก ‘MAGA’ สีแดง สื่อถึงสโลแกน “อเมริกาจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ซึ่งทรัมป์ใช้ตั้งแต่ช่วงหาเสียง ขณะที่เขาและมัสก์ ซึ่งเป็นผู้บริหารของสเปซเอ็กซ์ มุ่งหน้าไปชมการปล่อยจรวดสตาร์ชิป จากหอควบคุม “สตาร์เบส” ที่เมืองโบคาชิกา ในรัฐเทกซัส ทางตอนใต้ของประเทศ
จรวดลำดังกล่าวทะยานขึ้นจากฐานยิง เมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันอังคาร (05.00 น. วันพุธ ตามเวลาประเทศไทย) โดยถือเป็นการทดสอบครั้งที่ 6 ของยานสตาร์ชิป ซึ่งพัฒนาโดยสเปซเอ็กซ์
อย่างไรก็ตาม การที่ทรัมป์เดินทางไปยังบริษัทของมัสก์ด้วยตัวเอง สร้างคำถามเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากสเปซเอ็กซ์มีสัญญามูลค่ามหาศาล กับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) และกระทรวงกลาโหม
ส่วนการทดสอบเที่ยวบินที่ 6 ของสตาร์ชิป สร้างความสงสัยให้กับหลายฝ่ายเช่นกัน ว่าการส่งบูสเตอร์ครั้งแรกเป็นไปอย่างแม่นยำ หรืออาศัยโชคช่วยกันแน่ หลังมัสก์เปิดเผยอย่างไม่ตั้งใจ ว่าเที่ยวบินก่อนหน้า “เกือบจะกลายเป็นหายนะแล้ว”
อย่างไรก็ดี ส่วนบนของยานสตาร์ชิปโคจรรอบโลกได้บางส่วน ก่อนกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และตกลงสู่มหาสมุทรอินเดีย ภายในอีกประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมา
ด้วยแรงขับดันที่มากกว่าจรวดแซตเทิร์น 5 ของภารกิจอะพอลโลถึง 2 เท่า สตาร์ชิปจึงเป็นจรวดทรงพลังมากที่สุด เท่าที่เคยมีการสร้างมา และมัสก์เคยแย้มว่า สตาร์ชิป 3 ซึ่งจะเป็นจรวดรุ่นต่อจากนี้ จะมีกำลัง “มากกว่า 3 เท่า” และอาจบินขึ้นได้ภายใน 1 ปี
อนึ่ง ความภักดีของมัสก์ที่มีต่อทรัมป์นำไปสู่ความกังวลว่า เขาอาจมีส่วนกับการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว จากการยืนอยู่ระหว่างรัฐบาลกับยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจ
ขณะที่นักวิจารณ์กังวลว่า มัสก์อาจอาศัยอำนาจรัฐในอนาคต เปลี่ยนการตัดสินใจด้านกฎระเบียบ เพื่อให้บริษัททั้ง 6 แห่งของตัวเองได้รับผลประโยชน์ รวมถึงสเปซเอ็กซ์และโครงการสตาร์ชิป ซึ่งกำลังเผชิญกับความล่าช้าในหลายด้าน ที่มัสก์เคยกล่าวว่า มาจากการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม “ไม่จำเป็น” ของหน่วยงานรัฐ.
เครดิตภาพ : AFP