สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองพอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ว่าองค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (โนอา) รายงานว่า ปริมาณการจับปลาที่ท่าเรือใน 50 รัฐลดลง 2.6% เหลือ 8,400 ล้านปอนด์ (ราว 3,810 กก.) ในปี 2565 ขณะที่มูลค่าการจับปลาในปี 2565 ลดลง 11%

รายงานระบุว่า สหรัฐบริโภคอาหารทะเลน้อยลงเล็กน้อย เมื่อปี 2565 โดยการบริโภคต่อหัวลดลงประมาณ 3% เหลือ 19.8 ปอนด์ (ราว 8.9 กก.) ในปี 2565 หลังปีก่อนหน้าถือเป็นปีที่มีการบริโภคอาหารทะเลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และอุปทานอาหารทะเลสำหรับจำหน่ายก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ดี ยังมีแนวโน้มที่ดีอื่น ๆ เช่น 10 สายพันธุ์ปลาซึ่งถูกบริโภคมากที่สุด คิดเป็น 79% ของการบริโภคทั้งหมด ซึ่งเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ปลาทั้ง 10 สายพันธุ์คิดเป็นเกือบ 90% ของการบริโภคในสหรัฐ

รายงานระบุด้วยว่า การนำเข้าและส่งออกอาหารทะเลได้เพิ่มขึ้น ขณะที่มูลค่าการขาดดุลการค้าอาหารทะเลของสหรัฐเพิ่มขึ้น 6% เป็นมากกว่า 24,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 837,332 ล้านบาท) โดยมีแคนาดา, จีน และญี่ปุ่น เป็นคู่ค้ารายใหญ่

ด้านการจับปลาทั้งหมดในทุกพื้นที่ของสหรัฐลดลง ยกเว้นอ่าวเม็กซิโก แม้มูลค่าจะสูงกว่าตัวเลขของปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19

สำหรับท่าเรือซึ่งจับปลาได้มากที่สุดของสหรัฐ ได้แก่ ดัชต์ฮาร์เบอร์ ในรัฐอะแลสกา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ครองอันดับหนึ่งเป็นปีที่ 25 ติดต่อกัน และท่าเรือนิวเบดฟอร์ด ในรัฐแมสซาชูเซตส์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ มีมูลค่าการจับสูงสุดเป็นปีที่ 22 ติดต่อกัน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES