เมื่อวันที่ 19 พ.ย. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี ทีมงานเพจ “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” พร้อมด้วยหน่วยงานในจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่พักสงฆ์ป่า ในตำบลสลกบาตร มีพระและแม่ชี อ้างว่าสามารถสอนหูทิพย์ ตาทิพย์ ให้กับเด็กๆ ได้ โดยผู้ที่สำเร็จวิชาตาทิพย์ จะสามารถมองเห็นแม้ปิดตา และยังใช้ศพคนตายมาประกอบกิจกรรม เรียกผู้สำเร็จขั้นวิชาว่า “เจ้าแม่ตาทิพย์” ชาวบ้านร้องมีพฤติกรรมแปลกๆ นำศพมาประกอบกิจกรรม วอนเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ
สิบเอกประจักรกฤษ สายทิพย์ ผู้ก่อตั้งเพจ “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” เล่าว่า ได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีที่พักสงฆ์แห่งนี้ และนำเรื่องราวมาโพสต์ ว่ามีที่พักสงฆ์ป่า ในตำบลสลกบาตร มีพระและแม่ชี อ้างว่าสามารถสอนหูทิพย์ ตาทิพย์ ให้กับเด็กๆ ได้ โดยผู้ที่สำเร็จวิชาตาทิพย์ จะสามารถมองเห็นแม้ปิดตา และยังใช้ศพคนตายมาประกอบกิจกรรม เรียกผู้สำเร็จขั้นวิชาว่า “เจ้าแม่ตาทิพย์” ชาวบ้านร้องมีพฤติกรรมแปลกๆ นำศพมาประกอบกิจกรรม วอนเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ
นอกจากนี้ ในเฟซบุ๊กของที่พักสงฆ์แห่งนี้ ยังมีการโพสต์คลิปเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวโดยให้เด็กผู้หญิง และผู้ชายใช้ผ้าปิดตา และให้ทายตัวเลขและข้อความในกระดาษที่เขียนไว้ ต่อหน้าผู้ที่มาปฏิบัติธรรมในที่พักสงฆ์ ทำให้หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องแปลกใจและเชื่อว่าเป็นการเรียน “ตาทิพย์ หูทิพย์”
พร้อมทั้งท้าทายให้ทุกคนมาพิสูจน์ด้วยตนเอง โดยให้เด็กชายพูดเชิญชวนว่าเรื่องหูทิพย์ตาทิพย์มีอยู่จริง ซึ่งมีบางคลิปปิดตาเด็กผู้ชายและกดพิมพ์ข้อความตามคำบอกของพระสงฆ์ในแท็บเล็ต ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่ปิดตานั้นจะสามารถพิมพ์ได้ตามสั่งจริงๆ
โดยก็มีอีกหลายคลิปที่ปิดตาและให้เด็กผู้หญิงสื่อสารนับตัวการ์ตูนในกระดาษ เดินไปหยิบของ และสัมผัสตัวบุคคลตามคำบอกของพระสงฆ์ที่เรียกตนว่าอาจารย์ ซึ่งก็มีคลิปบางช่วงที่เด็กผู้หญิงปิดตาและปั่นจักรยานไปตามทาง โดยไม่ชนสิ่งกีดขวางแต่อย่างใดเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีญาติโยมที่เข้าไปปฏิบัติธรรมและถูกฝึกเรียนให้มี “หูทิพย์-ตาทิพย์” โดยเชื่อว่าจะสามารถมองเห็นสิ่งที่ถูกบังตาได้ พร้อมกับมีบางจุดภายในสำนักสงฆ์ลักษณะเป็นเนินดินมีรูปปั้นบางอย่าง ที่ใช้สำหรับนั่งสมาธิโดยเรียกสิ่งนี้ว่า ‘องค์คุฯใหม่’ ซึ่งก็มีคนเข้ามาปฏิบัติธรรมและเชื่อว่ามีสิ่งเร้นลับจริงๆ
สิบเอกประจักรกฤษ สายทิพย์ พร้อมหน่วยงานปกครอง สำนักพุทธฯ กำแพงเพชร ลงพื้นที่ไปที่ที่พักสงฆ์แห่งนี้ ใน ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ภายในสำนักมีพื้นที่จำนวน 95 ไร่ มีพระสงฆ์ 4 รูป แม่ชีจำนวน 4 คน ไม่พบเด็กๆ ที่อยู่ในคลิปแต่อย่างใด แต่พบว่ามีการนำศพคนตายมาเก็บไว้จริง โดยเท่าที่เจ้าหน้าที่สอบถาม เวลาที่เปิดสอน จะมีเด็กๆ จากนอกพื้นที่มาเรียนวิชาตาทิพย์ วิธีการคือ จะเอาผ้าซ้อนกัน 9 ชั้น มาปิดตาเด็ก แล้วให้เด็กมองภาพ ทายเลขจากในภาพ แต่โดยส่วนตัว ตนไม่เชื่ออยู่แล้วว่าวิชานี้มีจริง ก่อนหน้านี้เคยมีเคสแบบนี้มาแล้ว และถูกพิสูจน์แล้วว่า เด็กมองลอดช่องระหว่างผ้าตรงบริเวณจมูก เพราะเวลามองภาพ เด็กจะใช้วิธีมองต่ำ ไม่ใช่การมองที่ระดับสายตา
ขณะที่อาจารย์เบียร์บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีอยู่จริง แล้วยังเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์อีกด้วย จะปิดตาแล้วทายของตรงหน้า จะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อเปิดตามาก็มองเห็นแล้ว มันฝึกฝนอวดอุตริแบบนี้ คำถามคือมันได้ประโยชน์อะไร
แล้วปิดตาปั่นจักรยาน มันก็เป็นเรื่องความเคยชิน อาจารย์เห็นสุนัขตาบอด มันก็ใช้ชีวิตได้ อยู่ในพื้นที่ของมัน มันก็ไม่เห็นจะเดินไปชนอะไร เรื่องนี้พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยสอน สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนจะสอนแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ เพื่อดับทุกข์ในปัจจุบัน ท่านจะสอนแต่สิ่งที่เป็นสัจจะความจริง
อาจารย์อยากจะถามว่า ถ้าพระพวกนี้มันสอนได้จริง ทำได้จริง ต่อไปมีคนตกน้ำจมน้ำ ก็ไม่ต้องไปหานักประดาน้ำแล้ว ก็เอาพระพวกนี้มาสแกนเลย ประหยัดงบประมาณด้วย ถามว่าทำได้ไหมล่ะ
คุณไหม ผู้ปฏิบัติและศิษย์ของสำนักนี้ โฟนอินมาเล่าว่า ที่พักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ ที่กำแพงเพชร เป็นหนึ่งในสาขาของต้นตำรับที่เปิดสอนมานาน 33 ปี โดยต้นตำรับคือ วัดป่าศรีวิไลย์ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร, ที่พักสงฆ์ป่านครไชยบวร อ.โพทะเล จ.พิจิตร ปัจจุบันมีการสอนแบบนี้ 69 สาขา คนดัง ดาราไปฝึกฝนกันเยอะมาก การสอนต่างๆ ยึดตามหลักของพระพุทธเจ้า ท่านสอนให้เราฝึกปฏิบัติ ไม่ยึดติดกับศาลาหรือโบสถ์ใหญ่โตสวยงาม เราอยู่กันในป่า ฝึกปฏิบัติให้ใจนิ่ง
โดยเรื่องการนั่งสมาธิร่วมกับศพ เพื่อให้กลัวถึงขีดสุด ตนไปฝึกก็กลัวมาก เหงื่อแตกเต็มตัว แต่ก็ทำให้เราสะกดกลั้น ฝึกฝนให้อยู่กับความกลัวได้ด้วย
ถ้าบอกว่ามันไม่ดีจริง จะฝึกฝนจะปฏิบัติกันต่อเนื่องมาได้ 33 ปีได้หรือ แล้วพระอาจารย์ใหญ่ ที่เป็นต้นตำรับของวิชา ท่านเคยได้รับเชิญให้ไปสอนในกรมราชทัณฑ์ ในเรือนจำ
ขณะที่ พระอาจารย์สายฝน ปัณฑิโต หรือที่บรรดาลูกศิษย์ยกให้เป็น พระอาจารย์ใหญ่ ต้นตำรับของสาขาทั้งหมด โฟนอินเข้ามาชี้แจงว่า การฝึกตาทิพย์หูทิพย์ มันเป็นขั้นสูงแล้ว คนที่มาใหม่ต้องฝึกวิปัสสนาญาณก่อน ต้องตรวจสอบก่อนว่าผ่านหรือไม่ผ่าน อธิษฐานจิตได้หรือยัง แล้วถ้าผ่าน ค่อยไปฝึกสมาธิกับศพเป็นขั้นที่สอง แล้วค่อยไปฝึกขั้นสาม ก็คือตาทิพย์ หูทิพย์ ส่วนถ้าจะมองให้เห็นข้ามไปทุกที่ มันต้องไปฝึกระดับอภิญญา ซึ่งทางอาตมาก็มีการฝึกรับอภิญญา
การสอนเด็กๆ เป็นเพราะพ่อแม่เขาเจอปัญหาลูกติดเกม เขาก็เลยพาลูกฝึกตาทิพย์ หูทิพย์ ทำให้เด็กมีสมาธิ ฝึกสมาธิได้ เล่นเกมน้อยลง อ่านหนังสือ เรียนหนังสือได้ มันเป็นเพียงการฝึกสมาธิ มันไม่ถึงธรรม ที่บอกว่ามีหลายสาขา มันเป็นเพราะว่ามีลูกศิษย์ลูกหา เขามาเรียน มาฝึก แล้วก็ไปเปิดกันเองต่อตามสาขาต่างๆ
ส่วนใครจะถามว่าเชื่อหรือไม่เชื่อว่าอาตมาทำได้จริงหรือทำไม่ได้ ในระดับมีญาณทิพย์ มีอภิญญาจริงหรือไม่ ก็ไม่อยากจะอวดอ้าง แต่ขอให้มาดู มาฝึก มาเรียน อาตมาจะสอนให้ดูว่าพิสูจน์ได้จริง
โดยวิชาต่างๆ ที่ร่ำเรียนมาไม่ได้มีอยู่ในพระไตรปิฎก เป็นวิชาที่ไปฝึกมาจากเมืองคนธรรพ์ เป็นเมืองบังบด เมืองที่มีแสงปรากฏออกมา ไม่ใช่วิชาความรู้แบบปริยัติที่มีสอนในพระไตรปิฎก เพราะตนก็ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎก
สิ่งที่ทำให้นักเรียนในห้องโหนกระแสอึ้งไปตามๆ กัน ก็คือตอนที่พระอาจารย์บอกว่า เคยสอนสมาธิให้งูเหลือมมาแล้ว แล้วอาจารย์สายฝนยังอ้างอีกว่า การจะแสดงอะไรให้ใครเห็น ขอให้มาดูเอาเองที่วัดของอาตมา มา “ขึ้นครู” แล้วจะแสดงให้ดู เพราะสิ่งนี้คนไม่มีปัญญา ไม่ได้ศึกษา ไม่มีทางเข้าใจ