สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ว่าเกิดเหตุคนร้ายขับรถยนต์ส่วนบุคคลเอสยูวีพุ่งชนประชาชน ด้านนอกโรงเรียนประถมศึกษาหยงอัน ในเมืองฉางเต๋อ ของมณฑลหูหนาน ทางตอนกลางของจีน เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นช่วงที่นักเรียนกำลังเดินทางมายังโรงเรียน


ขณะที่สำนักข่าวซินหัวและสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (ซีซีทีวี) รายงานเพียงว่า “มีนักเรียนหลายคนได้รับบาดเจ็บ” จากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว และกำลังเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผล

AFP


เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงซึ่งเกิดขึ้นในจีน เป็นครั้งที่สาม ภายในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ชายวัย 21 ปี มีชื่อสกุล “สวี” ก่อเหตุใช้มีดไล่แทงผู้คน ภายในวิทยาลัยอาชีวศึกษาและเทคนิค อู๋ซี อี้ชิง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 17 คน


ผลการสอบปากคำในเบื้องต้นระบุว่า คนร้ายเคยศึกษาที่สถาบันแห่งนี้ และมีกำหนดจบการศึกษาในปีนี้ แต่ “มีผลการสอบที่ย่ำแย่จึงทำให้ไม่ได้รับประกาศนียบัตร” และกำลังมีความไม่พอใจอย่างมากกับค่าตอบแทนที่ได้รับ ระหว่างการฝึกงาน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ชายวัย 62 ปี ขับรถยนต์ส่วนบุคคลเอสยูวี พังประตูของศูนย์กีฬาของเทศบาลนครจูไห่ ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน เข้าไปไล่ชนประชาชนซึ่งกำลังออกกำลังกายอยู่ภายใน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 43 คน โดยแรงจูงใจของคนร้าย มาจากความไม่พอใจเรื่องการแบ่งสินสมรส หลังหย่าร้างกับภรรยา.

เครดิตภาพ : AFP