เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่ บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมบอสพอล ว่า วันนี้ตนจะเข้าไปคุยกับบอสพอล 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.กรณีที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีช่วงกลางวันหรือช่วงเย็นวันนี้ เพราะได้มีการเอาหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้บอสพอลเซ็นเรียบร้อยแล้ว และตนจะคุยรายละเอียดเรื่องที่ต้องแจ้งความช่วงเย็นวันนี้ ถ้าวันนี้สามารถได้หนังสือมอบอำนาจทัน และ 2.กรณีที่ดีเอสไอจะเข้ามาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย.) เป็นการเข้าไปสอบปากคำ จากกรณีที่ตำรวจสอบสวนกลางได้สอบสวนไว้ ซึ่งตนยังไม่แน่ชัดว่าดีเอสไอจะสอบปากคำประเด็นใด แต่น่าจะเป็นประเด็นพฤติการณ์ทางคดีโดยละเอียด เช่น บุคคลใดแจ้งความอะไรไว้ บอกพฤติการณ์ว่าโดนฉ้อโกงอย่างไร พรุ่งนี้คงจะได้เห็นกัน และจะได้ตอบคำถามเพิ่มเติมกันไป
ส่วนกรณีการเตรียมเเจ้งความดำเนินคดี น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช ประเด็นเรียกเงิน 20 ล้านบาท อ้างเป็นค่าแผนงานรายการดังนั้น ทนายวิฑูรย์ เผยว่า หากวันนี้ได้รับหนังสือมอบอำนาจจากบอสพอลเสร็จสิ้น ช่วงเย็นวันนี้ตนจะได้เดินทางไปที่กองบังคับการปราบปราม เพราะได้คุยกับตำรวจไว้แล้ว ส่วนข้อกล่าวหาที่จะพิจารณาแจ้งดำเนินคดีนั้น ตนยังพูดคุยกันอยู่ว่าจะเป็นข้อหาใด เนื่องจากมันมีพยายามกรรโชกทรัพย์ กับพยายามฉ้อโกง ซึ่งทีมทนายความเห็นว่าควรเป็นพยายามฉ้อโกง เพราะมันชัดกว่า แจ้งไปแล้วได้แน่นอน แต่ทางตำรวจก็มองว่าเนื้อหาโดยละเอียดมันเป็นพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะในคลิปเสียงมันมีการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา รวมถึงกล่าวอ้างว่าทางคุณกรรชัย กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม จะมีการโจมตีดิไอคอนฯ เป็นต้น จึงต้องดูว่าจะเป็นข้อหาใด แต่ทั้ง 2 ข้อหา จะแจ้งอะไรไปก็ปรับใช้ได้อยู่แล้ว
“ประเด็นที่ น.ส.กฤษอนงค์ ถูกคุมขังเข้าทัณฑสถานหญิงกลางนั้น ทางบอสปันและบอสพอล ทั้งคู่ได้ทราบเรื่องตั้งแต่คืนวานนี้ และก็ไม่ได้มีท่าทีใด ๆ และไม่ได้มีฝากข้อความอะไรเป็นพิเศษ แล้วตนมองว่าเขาคงไม่ได้สะใจอะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้น อาจต้องกังวลด้วยซ้ำ เพราะพอเข้าไปอยู่ภายในทัณฑสถานหญิงกลางด้วยกัน แม้จะมีการแยกเรือนนอนคนละตึก แต่เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน การอาบน้ำ การกินข้าว ก็ต้องมีการเจอกัน ย้ำว่าไม่ใช่ความสะใจ แต่เป็นความกังวลใจ เพราะบอสปันก็ไม่ได้อยากเจอเขา” ทนายวิฑูรย์ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นลักษณะของการเหม็นขี้หน้าเลยหรือไม่นั้น ทนายวิฑูรย์ ขำเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า ก็คงทำนองนั้น
เมื่อถามว่าบอสปันมองหรือไม่ ว่าเป็นเพราะ น.ส.กฤษอนงค์ หรือไม่ จึงทำให้ดิไอคอนแตกพังขนาดนี้ จนทำให้มีอาการเหม็นขี้หน้า หรือไม่อยากเจอหน้ากัน ทนายวิฑูรย์ แจงว่า เขาก็คิดแบบที่บอสฝั่งชายคิดว่าเป็นต้นเหตุหรือไม่ ส่วนเรื่องคลิปวิดีโอที่มีการไปกราบเท้า น.ส.กฤษอนงค์ ที่บ้านนั้น ตนยืนยันว่า ตนไม่มีคลิปดังกล่าว และตนถามทางเลขาฯ แล้วทราบว่าไม่มีการกราบเกิดขึ้น ส่วนที่ น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวว่าตัวเองก็มีคลิปเด็ดเหมือนกันนั้น ตนไม่กังวล เพราะตนก็มีคลิปเด็ดพอสมควรเหมือนกัน.