สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ว่า สวีเดนและฟินแลนด์ ยุตินโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดทางทหาร ซึ่งดำเนินมานานหลายสิบปี และเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่นำโดยสหรัฐ หลังรัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อปี 2565
นับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุขึ้น รัฐบาลสตอกโฮล์มเรียกร้องหลายครั้งหลายหน ให้ชาวสวีเดนเตรียมความพร้อมทั้งทางจิตใจ และทางโลจิสติกส์ สำหรับสงครามที่อาจเกิดขึ้น โดยระบุถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงในบริเวณใกล้เคียง
ทั้งนี้ จุลสาร “If Crisis or War Comes” ซึ่งแปลได้ว่า “หากวิกฤติหรือสงครามเกิดขึ้น” ของหน่วยงานรับมือเหตุฉุกเฉินพลเรือนแห่งสวีเดน (เอ็มเอสบี) มีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น สงคราม, ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือการโจมตีทางไซเบอร์
“สถานการณ์ด้านความมั่นคงมีความร้ายแรง และเราทุกคนจำเป็นต้องเสริมสร้างความสามารถในการรับมือ เพื่อเผชิญกับวิกฤติต่าง ๆ และสงคราม” นายมิคาเอล ฟริเซลล์ ผู้อำนวยการของเอ็มเอสบี กล่าวในแถลงการณ์
ขณะที่ฟินแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของสวีเดน และมีพรมแดนติดกับรัสเซีย ความยาวประมาณ 1,340 กิโลเมตร ก็เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือวิกฤติต่าง ๆ เช่นกัน.
เครดิตภาพ : AFP
