เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 67 พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช. รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พร้อมด้วยวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 จับกุมตัว น.ส.ชลธิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 605/2567 ลงวันที่ 17 ต.ค. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดย, สนับสนุนบุคคลอื่นให้ฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนโดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด จับกุมตัวที่บริเวณสถานีรถไฟอยุธยา ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นคุณหมอ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่าได้เล่นแอปพลิเคชัน Tinder พบเจอบุคคลหนึ่งมีการพูดคุยชักชวนเทรดทอง เมื่อลงทุนเทรดช่วงแรกได้รับเงินจริงจึงหลงเชื่อ ต่อมาจึงถูกหลอกให้โอนเงินลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 507,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้สืบสวนจนทราบว่า หนึ่งในเครือข่ายดังกล่าว คือ น.ส.ชลธิชา จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขอหมายจับ

จากการสอบสวน น.ส.ชลธิชา ให้การรับว่า เป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้หลอกให้โอนเงินจริง โดยได้ค่าจ้างเปิดบัญชี 7,000 บาท และได้ถูกชักชวนว่า หากเดินทางไปสแกนหน้าที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จะได้รับเงินเป็นรายครั้งที่มีการโอนเข้า โดยได้เดินทางไปสแกนหน้าล่าสุดเมื่อต้นเดือน พ.ย. จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามา ก่อนที่กลุ่มมิจฉาชีพจะโอนเงินไปยังบัญชีอื่น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.5 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.