นับว่าเป็นอีกหนึ่งสาวที่สตรองไม่แพ้ใครเลย สำหรับ “กบ พิมลรัตน์” หลังจากออกมาเปิดใจว่าได้จบความสัมพันธ์กับอดีตสามีซึ่งคบมาเป็นระยะเวลากว่า 9 ปี พร้อมทั้งยังได้ยื่นฟ้องร้องกับอดีตสามีไปในเวลาต่อมา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ ได้มีโอกาสเจอ กบ พิมลรัตน์ ในงานแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่ แบรนด์Silhouette เปิดตัวคอลเลกชัน Autumm-Winter 2024 “Lost in the Museum” จึงขอสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีและสภาพจิตใจในตอนนี้ โดย กบ เผยว่า

“จัดสรรเรื่องราวในชีวิตของตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ทางนั้นทุกอย่างยังเพิ่งเริ่มต้นในเรื่องของกระบวนการ ช่วงนี้เป็นช่วงดำเนินการในรูปแบบของศาล ว่ากันไปตามกฏหมายระหว่างทนายกับทนาย มีสิ่งที่กังวลแต่ว่าเราก็ยืนหยัดในความถูกต้องไม่ได้กังวลอะไรมากและเชื่อมั่นในทนายของตัวเอง ในเรื่องที่ฟ้องไปกับศาลมีสองเรื่องตามที่เคยแถลงข่าวไป คือผิดสัญญาหมั่นและให้สินสอดกับคุณแม่ไม่ครบ หลังจากแถลงข่าวไปทางนั้นไม่ได้ติดต่อมา อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องระวังเนื้อระวังตัว ตอนนี้ว่ากันไปตามกระบวนการ เราฟ้องแล้ว อยู่ในกระบวนการที่ทางทนายจะต้องดำเนินการต่อ ไม่ได้มีการไกล่เกลี่ยเพราะว่ามีการไกล่เกี่ยแล้วในช่วงแรก ตอนนี้สภาพจิตใจ เราก็เป็นตัวของตัวเองได้ 100% ทั้งเรื่องการแต่งตัว อยากทำอะไรก็ทำ อยากทานอะไรก็ได้ทาน อยากไปไหนก็ได้ไป ตอนนั้นด้วยความที่งานเราต้องเดินทางต่างประเทศเยอะไม่ค่อยมีเวลาให้กับตัวเองเท่าไหร่ แล้วไม่ได้มีเวลาให้กับน้องหมาที่บ้าน ตอนนี้มีเวลาให้เต็มที่หลังจากงานเสร็จก็อยู่กับเขา เสาร์-อาทิตย์ก็พาไปเที่ยววันที่ว่างก็จะพาไปต่างจังหวัดมีน้องหมาแล้วก็มีแม่บ้าน เราก็มีความสุขเป็นคนกำหนดชีวิตตัวเอง ที่ผ่านมาเป็นธรรมดาเวลาเรามีครอบครัว ทุกครอบครัวก็จะมีข้อตกลง แต่ในส่วนของครอบครัวกบก็อาจจะมากกว่าปกติไปหน่อย มันก็เลยทำให้รบกวนพื้นที่ส่วนตัวของเราไปในความเป็นตัวของเราเองซึ่งมันเรื่องเบสิค”

เราไม่เป็นตัวของตัวเอง เสื้อผ้าที่เคยซื้อมาตอนคบเขา ที่ทิ้งไปก็มี ใส่แล้วไม่ใช่เราเหมือนคุณป้า ณ วันที่ใส่เราก็รู้สึกสวยในโมเมนต์นั้นด้วยความที่เรารู้ว่าเรามีขอบเขตในการแต่งตัวได้เท่านี้ แต่พอวันที่เป็นเราก็แทบจะเอาเสื้อผ้าเก่าๆออกมาที่อยากใส่ ที่เคยซื้อเก็บไว้ป้ายยังห้อยอยู่ แล้วก็ซื้อใหม่ๆ อันเก่าๆก็เอาออกไปเยอะ เราไม่ได้เอาเสื้อผ้าที่มีป้ายอยู่มาใส่เลย เพราะกลัวเขาว่า ชุดที่ว่าก็อาจจะเป็นชุดที่โชว์เนื้อหนังมังสามากจนเกินไปเกาะอกอะไรประมาณนี้ ทุกวันนี้ก็ชินแล้วมีความสุข หนูไม่อยากคุยเรื่องเดิมแล้วเพราะเวลาคุยแล้วเหมือนกับไปอยู่ในช่วงนั้น ไม่ว่าคุยกับใครก็แล้วแต่ มันเหมือนว่าเรากลับไปคิดแล้วเป็นคนเซนซิทีฟ เวลาไปนอนก็จะฝันร้าย  (เวลาตื่นขึ้นมาเราบอกตัวเองให้ก้าวต่อไปยังไง?)มันก็เป็นเรื่องจริงที่เขาว่าเวลาเราเอนเนอร์จี้ดีกับตัวเราเอง พอไปไหนเราก็จะเจอสิ่งดีๆ ก็เชื่อในเรื่องพวกนี้แล้วก็ขอบคุณทุกอย่างที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นคนรอบกาย งานที่เข้ามา อะไรหลายๆอย่างที่เรารู้สึกว่ามันดีไปหมด จังหวะดีไปหมด ตอนนี้ก็มีงานที่เสนอเข้ามา แล้วก็ได้รับไปแล้ว ถ้ามีบทแซ่บๆเข้ามาก็เล่นได้ ชอบ อยากเล่นอะไรที่ตัวเองไม่เคยเล่น เราชอบงานยากๆไม่ชอบงานง่าย ชอบงานอะไรที่เราได้พัฒนาฝีมือ งานง่ายได้เงินก็ไม่เอา ของานยากและมีคุณภาพ

ขอบคุณภาพประกอบจาก:kobpimolrat