เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ศาลจังหวัดเลย ได้ออกหมายจับเลขที่ จ.4282 ลงวันที่ 15 พ.ย. 67 อดีตพระมหาปัคทวี พิมคีรี (อัคควีโร) หรือ “ครูบาอาม” อายุ 34 ปี บวชได้ 10 พรรษา พระลูกวัดป่าเวฬุวนาราม ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” จากกรณีหลอกลวงเอาเงินจาก ผอ.รพ.ปากชม และเจ้าคณะจังหวัด รวมถึงญาติโยมต่าง ๆ รวมกันกว่า 200 ล้านบาท เพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก “ครูบาอาม” ได้ทำการหลอกลวง ผอ.รพ.ปากชม และเจ้าคณะจังหวัดเลย ครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 โดยขอเบิกเงินสมทบสร้างตึกอุบัติเหตุ ซึ่งเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวนาราม เป็นผู้ริเริ่มในการสร้างโครงการ โดยอ้างว่าเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวนาราม ให้มาเบิกก่อน เป็นจำนวน 300,000 บาท เพื่อจะนำเงินจัดงานผ้าป่าที่คณะจากกรุงเทพฯ จะมาทอดผ้าป่าที่วัด ต่อมาวันที่ 24 ก.ค. 66 และวันที่ 5 ก.ย. 66 วันที่ 20 ก.พ. 67 วันที่ 19 มี.ค. 67 และครั้งสุดท้ายวันที่ 5 เม.ย. 67 ได้เข้ามายืมเงินรวม 5 ครั้ง
โดย “ครูบาอาม” อ้างว่า จะนำเงินเพื่อนำไปทำโครงการการเดินธุดงค์ที่ประเทศศรีลังกา ซึ่งจะมีเงินบริจาคเข้ามาจะนำมาชดใช้คืน โดยการยืมเงินโครงการสมทบสร้างตึก รพ.ปากชม รวมจำนวนเงินทั้งหมด 7 ล้านบาท หลังจากเสร็จโครงการการเดินธุดงค์ กลับเงียบหายไป ภายหลังมีการสอบถามเจ้าอาวาส จึงทราบว่าท่านไม่ทราบเรื่องดังกล่าว “ครูบาอาม” แอบอ้างเอาชื่อท่านไปใช้ ทางเจ้าคณะจังหวัดจึงเรียกมาพบพร้อม ก่อนจะรับสารภาพว่าทำเอง จากนั้นก็เซ็นสัญญารับสภาพหนี้
ขณะเดียวกันคณะกรรมการวัด ได้ตรวจสอบญาติโยมที่เกี่ยวข้องกับ “ครูบาอาม” พบว่าส่วนใหญ่ถูกหยิบยืมและเรี่ยไรเงินมาทำบุญในชื่อบัญชีธนาคารชื่อวัด แต่กลับไม่มีเงินดังกล่าวเข้ามายังวัดแต่อย่างใด กระทั่งตรวจสอบต่อไปจนพบว่า “ครูบาอาม” แอบไปเปิดบัญชีธนาคารต่างสาขาโดยใช้ชื่อวัด ก่อนจะเบิกจ่ายเงินมาโดยตลอด มีวงเงินเข้าออกบัญชีรวมกว่า 200 ล้านบาท ส่วนใหญ่พบว่าเป็นการโอนเงินไปยังธนาคาร อ.แม่สาย และธนาคารใน จ.เชียงราย ในช่วงเวลากลางคืน ทำให้ทราบว่า “ครูบาอาม” แอบเล่นการพนันออนไลน์ จนเสียพนันไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท ทางเจ้าอาวาสและคณะสงฆ์ จึงสั่งให้สึก เพื่อให้พ้นจากความเป็นพระทันที ต่อมา ผอ.รพ. และเจ้าคณะจังหวัด ได้เข้าแจ้งความเอาผิด เนื่องจากเงินที่อดีตพระเอาไป เป็นเงินของประชาชน ทางตำรวจเรียกให้มาพบ 1 ครั้ง แต่ยังไม่ยอมมาพบ โดยคดีนี้ความเสียหายสูงเป็นเงินหลัก 100 ล้าน สุดท้ายจึงขอศาลออกหมายจับ เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับอดีตพระ “ครูบาอาม” ตลอดที่บวชเป็นพระ ได้พยายามทำตัวใกล้ชิดกับหลวงพ่อเจ้าอาวาส จึงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป หลังจากคณะศิษยานุศิษย์ต่างทราบเรื่อง เนื่องจากบางคนก็ถูกยืมเงินไปใช้ และบางส่วนไม่แน่ใจ เงินที่ทำบุญไปกับวัดจะถึงวัดหรือเปล่า ต่างก็รอให้ตำรวจตามจับมาดำเนินคดี พร้อมกับจะรวมตัวเข้าแจ้งความดำเนินให้ถึงที่สุด โดยญาติโยมที่เสียหายส่วนใหญ่อยู่คนละจังหวัด มีตั้งแต่ข้าราชการผู้ใหญ่ นายแพทย์ ที่มีความศรัทธาต่อองค์เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และเป็นที่เคารพและศรัทธาของคนจังหวัดเลย.