สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ว่า รัฐบาลลอนดอนระบุว่า จะเปิดเผยกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อจำกัดการออกใบอนุญาตทำเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ในอนาคต “อย่างเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” โดยอธิบายว่าเป็น “ขั้นตอนสำคัญ” ในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

ด้านกลุ่มสิ่งแวดล้อมหลายกลุ่ม ยกย่องการตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นหลังการปิดโรงไฟฟ้าแรตคลิฟฟ์-ออน-ซอร์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งสุดท้ายของสหราชอาณาจักร เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้สหราชอาณาจักร เป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ จี7 ที่ยุติการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อผลิตไฟฟ้า

ทั้งนี้ นายไมเคิล แชงค์ส รมว.พลังงานของสหราชอาณาจักร กล่าวในแถลงการณ์ ว่า การเลิกใช้พลังงานจากถ่านหิน จะปูทางไปสู่ระบบพลังงานที่สะอาดและปลอดภัย ซึ่งจะช่วยปกป้องประชาชน และสร้างแรงงานที่มีทักษะรุ่นใหม่

ตามข้อมูลของรัฐบาลลอนดอน สหราชอาณาจักรใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 40% ของอุปทานไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศ เมื่อปี 2555 แต่สัดส่วนดังกล่าวลดเหลือ 0% ในปัจจุบันแล้ว

อนึ่ง พรรคแรงงานของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชุดใหม่ ให้คำมั่นว่าจะมีความทะเยอทะยานมากขึ้น ในนโยบายที่มุ่งเน้นการบรรลุพันธกรณีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของประเทศ โดยให้สัญญาว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในโครงข่ายไฟฟ้า ภายในปี 2573 รวมถึงดำเนินการอื่น ๆ เพิ่มเติม.

เครดิตภาพ : AFP