เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานยูเนสโกระดับภูมิภาค ณ กรุงเทพมหานคร และกรมศิลปากร จัดพิธีส่งคืนโบราณวัตถุจากแหล่งมรดกโลกบ้านเชียง โดยนายโรเบิร์ต แฟรงก์ โกเด็ค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และนายราฟีค แมนซัวร์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เป็นผู้แทนส่งมอบโบราณวัตถุให้ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม โดยมี นางซูฮย็อน คิม ผอ.ส่วนภูมิภาค สำนักงานยูเนสโกส่วนภูมิภาค ณ กรุงเทพฯ เป็นสักขีพยาน
นายโรเบิร์ต กล่าวว่า ในนามของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา มีความยินดีที่จะประกาศการส่งคืนโบราณวัตถุจำนวน 4 ชิ้นจากแหล่งบ้านเชียงและแหล่งอื่นๆ ทางภาคกลางของไทย ซึ่งประกอบด้วยภาชนะดินเผา กำไลข้อมือ และลูกกลิ้งทรงกระบอก 2 ชิ้นที่ยังไม่ทราบการใช้งานที่แน่ชัด ที่มาของโบราณวัตถุเหล่านี้มีประวัติย้อนหลังถึงช่วงปลายทศวรรษ 1960 เมื่อทหารอเมริกันได้รับโบราณวัตถุเหล่านี้เป็นของขวัญจากรัฐบาลไทย ซึ่งนำมาเก็บรักษาไว้ที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โบราณวัตถุดังกล่าวได้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถึงเวลาที่จะส่งคืนสิ่งของล้ำค่านี้กลับสู่บ้านเกิดที่แท้จริง โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลสหรัฐ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่สำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในการส่งคืนทรัพย์สินทางวัฒนธรรมจากทั่วโลกกลับไปยังเจ้าของที่แท้จริง โดยได้ร่วมมือกับสำนักงานยูเนสโกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกรุงเทพฯ เพื่อติดต่อกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อส่งคืนโบราณวัตถุดังกล่าวจากแหล่งบ้านเชียง หวังว่าสิ่งของเหล่านี้จะมีส่วนช่วยการศึกษาวิจัยและทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับหนึ่งในสังคมยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังได้มีการจัดสัมมนาในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นการรำลึกถึงครบรอบ 54 ปีของอนุสัญญายูเนสโกว่าด้วยวิธีการในการห้ามและป้องกันการนำเข้า การส่งออก และการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทางวัฒนธรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ค.ศ.1970 ซึ่งหวังว่าจะช่วยเพิ่มความตระหนักรู้ของประชาชนว่า การโจรกรรม การลักขโมย และการลักลอบค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอันมิชอบด้วยกฎหมายซึ่งเกิดขึ้นในทุกประเทศนั้น ทำให้เกิดความเสียหายแก่วัฒนธรรม เอกลักษณ์ และประวัติศาสตร์ของผู้คนได้อย่างไร ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ จะยังคงสนับสนุนการส่งคืนโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่สำคัญซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมรดกของไทย โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ส่งคืนประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ หรือ โกลเด้นบอย และประติมากรรมรูปสตรีพนมมือ จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันในนิวยอร์ก คืนสู่ประเทศไทยแล้ว
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2535 การส่งคืนโบราณวัตถุในครั้งนี้ นับเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐ ทั้งยังเป็นการเน้นย้ำในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของมวลมนุษยชาติด้วย เพราะการส่งมอบคืนครั้งนี้ตรงกับวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งเป็นวันสากลเพื่อการต่อต้านการลักลอบค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรม ด้วย โดยโบราณวัตถุทั้ง 4 รายการ จะมีการจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติก่อน จากนั้นจะมีการนำกลับไปยังแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงต่อไป
ด้าน นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ประเทศไทยและสหรัฐมีความสัมพันธ์ยืนยาวกว่าร้อยปี ทั้งมีความร่วมมือทุกด้าน หลายปีที่ผ่านมา เราเพิ่มความร่วมมือด้านวัฒนธรรมมากขึ้น และมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกันที่จะให้องค์ความรู้ สร้างบุคลากร การแลกเปลี่ยนและยืมโบราณวัตถุ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่เราจะได้ศึกษาค้นคว้าและแลกเปลี่ยนความรู้ ต้องยอมรับว่า โบราณวัตถุต่างๆ นั้น เป็นสมบัติของมวลมนุษยชาติ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แต่จะดีที่สุดที่โบราณวัตถุนั้นได้กลับคืนแผ่นดินแม่ ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาสหรัฐช่วยทำให้เป็นจริง ซึ่งยังคงมีโบราณวัตถุอีกหลายรายการถูกนำออกไปจากประเทศไทยในอดีตที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันคงไม่ค่อยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวอีก สำหรับการส่งคืนโบราณวัตถุบ้านเชียง ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ต้องขอบคุณทางสหรัฐเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้กรมศิลปากรยังได้รับการประสานจากสหรัฐเตรียมส่งคืนโบราณวัตถุอีก 2 รายการ ซึ่งเป็นประติมากรรมรูปเคารพในศาสนาฮินดู โดยขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการพิสูจน์และนำเข้าสู่คณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยต่อไป