เมื่อเวลา 18.05 น. วันที่ 13 พ.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เปิดงานตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชีวิตริมคลองโอ่งอ่าง “งานลอยกระทงคลองโอ่งอ่าง” และ”งานโอ่งอ่าง Water & Color Festival ในวันที่ 13 – 15 พ.ย. 67″ ณ บริเวณคลองโอ่งอ่าง เขตพระนครและเขตสัมพันธวงศ์ โดยมีนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. ผู้บริหารสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว ผู้บริหารเขตพระนครและเขตสัมพันธวงศ์ ภาคเอกชนและภาคีเครือข่าย ร่วมกันเปิดงาน
นายชัชชาติ กล่าวว่าคลองโอ่งอ่าง น่าจะเป็นงานลอยกระทงงานแรกในกรุงเทพมหานคร เป็นจุดที่คึกคัก สังเกตให้ดีคนที่มาขายของจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะเราพยายามเน้นเศรษฐกิจชุมชน และที่ปีนี้คลองโอ่งอ่างไม่มีลอยกระทงดิจิทัล เนื่องจากแม่ค้าบ่นว่าขายกระทงไม่ได้ ดังนั้นใครอยากลอยกระทงดิจิทัลให้ไปที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน จึงพยายามลอยกระทงให้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ และไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีคนบ่นว่าคลองโอ่งอ่างเงียบเหงา จริง ๆ เราอยากให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ไม่อยากเอาเงินมาจัดอีเวนท์แล้วสุดท้ายเงียบไป เพราะคลองโองอ่างต้องพัฒนาอัตลักษณ์ของตนเองให้ได้ เหมือนที่ชาวทรงวาด เยาวราช และบรรทัดทองทำสำเร็จ
ซึ่งกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้สนับสนุนดูแลส่วนต่าง ๆ สำหรับงานลอยกระทงที่คลองโอ่งอ่างในปีนี้ มีกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 13-15พ.ย.นี้ โดยประชาชนสามารถนำกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติมาร่วมลอยกระทงเพื่อเสริมสร้างประเพณีในวันที่ 15 พ.ย.นี้ได้ และมาชมกระทงลอยฟ้า ซึ่งเป็นการออกแบบจากศิลปินกว่า 20 ชีวิตที่จะมีการใช้ขึ้นไปบนตึกให้ได้ถ่ายภาพร่วมกัน และร่วมกิจกรรมระบายสีข้างกำแพง วาดภาพเหมือน และถ่ายรูปสตรีทอาร์ทริมกำแพง พร้อมเดินเลือกซื้อสิ้นค้า อาหารจากร้านค้าในชุมชน และทำกิจกรรมพายเรือคายัคได้ .
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรการความปลอดภัย การป้องกันอุบัติเหตุและอุบัติภัย การควบคุมการจำหน่ายและการเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง โคมลอย การดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าเทียบเรือ โป๊ะ ท่าริมน้ำตามวัดบริเวณใต้สะพานต่าง ๆ และริมตลิ่งที่ประชาชนจะไปลอยกระทงให้มีความแข็งแรงและปลอดภัย ทั้งนี้ภายในพื้นที่จัดงานจะไม่ให้มีการจำหน่ายพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ
ส่วนเรื่องฝุ่นนั้น จากการคาดการณ์มีแนวโน้มค่าฝุ่นสูงขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับสีส้มคาดว่าช่วงเย็นน่าจะมีปริมาณที่เบาบางลงหากประชาชนกลุ่มเสี่ยงเดินทางออกมาเที่ยวงานลอยกระทงก็ควรสวมหน้ากากอนามัย และอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยกันนั่นก็คือลดการเดินทาง โดยสามารถไปเที่ยวงานลอยกระทงที่อยู่ใกล้บ้านได้เนื่องจากปีนี้กทมมีการจัดงานหลายที่
ด้านนายศานนท์ ระบุถึงการรณรงค์ไม่ใช้กระทงโฟมหรือกระทงโฟมเป็นศูนย์ว่า จากปริมาณกระทงในแต่ละปีมีมากกว่า 2 แสนใบ และพบว่าเป็นกระทงโฟมประมาณ 2 หมื่นใบ ปีนี้จึงรณรงค์ให้ทุกพื้นที่ไม่มีการนำกระทงโฟมมาลอยคาดหวังว่าจะทำให้กระทมที่ผลิตจากโฟมลดน้อยลงและหายไป รวมถึงขอความร่วมมืองดลอยกระทงขนมปังเพื่อรักษาสภาพน้ำในคลองและสัตว์น้ำเนื่องจากปีที่ผ่านมาประสบปัญหาสัตว์น้ำตายจำนวนมาก.