เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายประพันธ์ ดิษยทัต เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย กล่าวถึงการดำเนินงานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับอินโดนีเซีย ว่า ประเทศไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2493 ซึ่งการสถาปนาความสัมพันธ์ดังกล่าวจะครบรอบ 75 ปีในวันที่ 7 มี.ค. 2568 และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระสำคัญดังกล่าว ทั้ง 2 ประเทศได้เริ่มจัดกิจกรรมต่างๆ ในปี 2567 และจะจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมเพิ่มขึ้นในปี 2568 ด้วย ทั้งนี้ ชาวอินโดนีเซียชื่นชอบวัฒนธรรมของไทย ทั้งภาพยนตร์ และดนตรี ซึ่งที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ เคยจัดเทศกาลภาพยนตร์ไทยในอินโดนีเซีย แต่ในปี 2568 เราเตรียมจะจัดเทศกาลภาพยนตร์ไทยในรูปแบบที่ใหญ่ขึ้น
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดพิธีเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดจาการ์ตาธรรมจักรชยะ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นโอกาสหนึ่งที่น่ายินดีอย่างมาก และมีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรม ทั้งนี้ ชาวพุทธในอินโดนีเซียมีประมาณ 2 ล้านคน อีกทั้ง ชาวพุทธที่นี่มีความเลื่อมใสในศาสนาพุทธอย่างมาก และปฏิบัติตามวิถีพุทธศาสนิกชนอย่างเคร่งครัดด้วย
สำหรับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันนั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้นำของไทยและอินโดนีเซียต่างฝ่ายต่างเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง จึงถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่รัฐบาลของ 2 ประเทศจะมาทำงานร่วมกัน สำหรับนโยบายหลักของรัฐบาลอินโดนีเซียชุดปัจจุบัน มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ซึ่งประเทศไทยมีความโดดเด่นในเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องดีที่ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมกันผลักดันในอนาคต อีกทั้งฝ่ายไทยอยากจะเพิ่มความร่วมมือกับอินโดนีเซียในด้านการศึกษา เนื่องจากเรามีนักศึกษาไทยมาเรียนในอินโดนีเซีย ประมาณ 800 คน ขณะที่อินโดนีเซียอยากจะร่วมมือกับไทยด้านเกษตรกรรม เพื่อที่เขาจะพัฒนาการเกษตรและเพิ่มปริมาณอาหารเพียงพอต่อจำนวนประชากร
