เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวเซี่ยงไฮ้นิวส์รายงานกรณีอินฟลูเอนเซอร์สาวชาวจีนซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 2.78 ล้านคน ตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์หลังจากที่เธอโพสต์คลิปวิดีโอที่ตัวเองกำลังกินอาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงหมู
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา กงอวี่เฟิงหรือฉายาที่รู้จักกันดีในโลกออนไลน์ของจีนว่า คิงคอง หลิวเค่อ โพสต์คลิปวิดีโอประกาศว่าเธอจะทำภารกิจการใช้ชีวิตโดยใช้จ่ายให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ได้บอกเหตุผลในการริเริ่มภารกิจครั้งนี้
หญิงสาวตัดสินใจเข้าร่วมภารกิจแนวประหยัดเงินนี้มาจากชุมชนออนไลน์ยอดนิยมของจีนที่ชื่อว่าจื่อฮู ซึ่งระบุเงื่อนไขว่าต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยมีงบประมาณเพียงวันละ 3 หยวน (ราว 14.50 บาท)
ต่อมา อินฟลูเอนเซอร์สาวก็โพสต์คลิปวิดีโอซึ่งบันทึกภาพของตัวเองเปิดถุงอาหารสำหรับเลี้ยงหมูใบใหม่ โดยบอกว่าอาหารถุงนี้มีราคา 100 หยวน และน่าจะมากพอให้เธอกินอิ่มท้องไปได้ทั้งเดือน (ราว 480 บาท) พร้อมกันนั้นก็บรรยายส่วนผสมของอาหารหมูที่เขียนระบุว่า เช่น ถั่วเหลือง, เมล็ดงา, ข้าวโพดและรำข้าวสาลี
นอกจากนี้เธอยังอ้างว่า อาหารหมูนี้มีทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและวิตามิน ทั้งยังเป็นอาหารที่ผลิตจากธรรมชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพมากกว่าอาหารที่คนกิน
ในคลิปดังกล่าว กงได้ทดลองกินอาหารหมูเข้าไปจริง ๆ พร้อมทั้งรีวิวไปด้วย เธอบอกว่าน่าแปลกใจที่อาหารหมูไม่ได้มีกลิ่นแรงหรือเหม็น แต่ทำให้คิดถึงกลิ่นของซีเรียลหรือแผ่นธัญพืชอบกรอบ
แต่หลังจากที่ผสมอาหารหมูปริมาณ 100 กรัมเข้ากับน้ำเปล่าและตักเข้าปากไป 1 ช้อนพูน กงก็แสดงท่าทีรังเกียจและกล่าวว่า อาหารหมูที่กินเข้าไปมีรสชาติเค็มมากและมีรสเปรี้ยวผสมอยู่ด้วย
จากนั้น กงก็เติมน้ำลงไปอีกและพยายามกินจนหมดชาม เธอประกาศว่าจะกินอาหารหมูนี้ตลอดสัปดาห์และลองสังเกตดูว่าร่างกายของเธอจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหรือไม่
ต่อมาในวันที่ 1 พ.ย. 2567 นักข่าวของเซี่ยงไฮ้นิวส์ก็ติดต่อไปยังโรงงานผู้ผลิตอาหารหมูที่กงนำมากินโชว์ในคลิปของเธอ ซึ่งทางบริษัทก็ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยของอาหารและไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทชี้ว่า อาหารสัตว์มีความแตกต่างจากอาหารที่คนกิน โดยส่วนผสมในอาหารไม่ได้ผ่านการปรับแต่งให้เหมาะกับคนและอาจจะดูดซึมได้ยากกว่าเมื่อเข้าไปในร่างกายคน
ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารก็ให้สัมภาษณ์ว่า อาหารหมูส่วนใหญ่แล้วจะใช้ส่วนผสมที่เป็นกากอาหารหรือส่วนที่คนไม่กิน และไม่แนะนำให้คนนำมารับประทาน เพราะการกินอาหารหมูในระยะยาวอาจนำไปสู่ภาวะขาดสารอาหารและแร่ธาตุบางอย่าง เช่น แคลเซียม, เหล็ก, สังกะสีและไอโอดีน
ส่วนกงอวี่เฟิงก็ไม่แนะนำให้ผู้ชมเอาอย่างเธอเช่น “เว้นแต่ว่าคุณจะยากจนจริงๆ” ขณะที่สำนักข่าวเซี่ยงไฮ้นิวส์ตั้งข้อสังเกตว่า คลิปวิดีโอของเธอไม่มีคำเตือนว่าพฤติกรรมเช่นนี้เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ
นอกจากนี้ สำนักข่าวยังได้สัมภาษณ์ทนายความท่านหนึ่งซึ่งชี้ว่า ถึงแม้ในตอนนี้จีนยังไม่มีกฎหมายห้ามการนำอาหารสัตว์มาบริโภค แต่การกระทำของกงก็อาจเข้าข่ายละเมิดแนวทางการเผยแพร่เนื้อหาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ พฤติกรรมเช่นที่เธอแสดงออกในคลิปอาจโดนพิจารณาว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจหรือขัดต่อศีลธรรม ซึ่งส่งผลให้มีคำสั่งระงับการเผยแพร่คลิปดังกล่าวได้
คลิปวิดีโอของอินฟลูเอนเซอร์สาวกลายเป็นไวรัลด้วยยอดเข้าชมไม่ต่ำกว่า 6.3 ล้านครั้งบนแพลตฟอร์มเวยปั๋ว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของจีน ขณะเดียวกันก็โดนชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก รวมถึงแสดงความเห็นในเชิงตำหนิ
ต่อมาในวันที่ 6 พ.ย. 2567 ก็มีรายงานข่าวว่าคลิปวิดีโอของกงอวี่เฟิงโดนลบออกจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน นอกจากนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้งานของเธออีกด้วย
ที่มา : asiaone.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Bilibili