ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก ในไทย ในฤดูกาลหน้าจะเปลี่ยนมือ

ค่อนข้างแน่ๆ ว่า JAS หรือเรียกง่ายๆ ว่า MONO จะได้ลิขสิทธิ์ไป

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ซัดรวด 6 ฤดูกาล ราคามหาศาลบานเบิก ร่วมๆ 1.9 หมื่นล้านบาท

ผู้บริหารบอกว่า ค่าชมจะถูกว่าปัจจุบัน วางไว้เบื้องต้นสักรายเดือน เดือนละ 400 บาท

ฤดูกาลนี้ ทรูวิชั่นส์ ถือลิขสิทธิ์ ค่าแพ็กเกจรายฤดูกาล ทะลุครึ่งหมื่นบาท แพงโดดจากหนก่อนมาก แฟนบ่นกันอุบ

ส่วนฤดูกาลหน้า เมื่อ JAS สอยไป หมายความว่าจะหลุดจากมือ ทรูวิชั่นส์ และอาจจะนานถึง 6 ปีเลยทีเดียว

คอนเทนต์ของ ทรูวิชั่นส์ จะขาด “เรือธง” อย่าง “พรีเมียร์ลีก” เพราะเชื่อว่าสมาชิกส่วนใหญ่ ก็เพื่อดูพรีเมียร์ลีกนี่แหละ ในยุคที่สตรีมมิ่งหนัง มีหลายเจ้า ราคาไม่เกินเอื้อม

ทรูวิชั่นส์ ได้ถ่ายทอดสดหลายกีฬาเหมือนกัน แต่ที่ชัดสุดคือ พรีเมียร์ลีก ขณะที่ ไทยลีก ก็ได้ไปด้วย

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขายลิขสิทธิ์ไทยลีกฤดูกาลปัจจุบัน ในราคาที่ดูค่อนข้างย่อมเยา แม้ไม่เปิดอย่างเป็นทางการ ก็ว่ากันว่า ไม่ถึง 100 ล้านบาท

ส่วนหนึ่งอาจเพราะขายได้ในช่วงตลาดใกล้วาย ลดกันสะบั้นหั่นแหลก พลังต่อรองเลยน้อย ได้เท่าไหร่ เอาเท่านั้น ดีกว่าขายไม่ได้เลย

ทรูวิชั่นส์ ซื้อลิขสิทธิ์ไทยลีกไป 1 ฤดูกาล ส่วนฤดูกาลต่อไป ยังไม่รู้ว่าใครจะได้ ยังอยู่ช่วงส่องๆ

และจากการซื้อขาย ฤดูกาลปัจจุบันที่ดูเหมือนสมาคมบอลไทย จะเป็นเบี้ยล่าง เพราะทรูวิชั่นส์เลือกได้ ราคาเลยไม่พุ่ง

แต่สถานการณ์ปัจจุบัน ต่อเนื่องถึงอนาคต อาจจะพลิกผัน

ทรูวิชั่นส์ จะไม่มี พรีเมียร์ลีก ดังนั้นต้องหาจุดขายแทน เหมือนที่ตอนเสียให้ CTH แล้วมาปั้นไทยลีก เป็นไฮไลต์

แผนการเดิม อาจถูกงัดมาใช้ ที่เอา ไทยลีก เป็นกำลังสำคัญ ดึงลูกค้าให้มาเป็นสมาชิก ซึ่งนั่นหมายความว่าก็ต้องร่วมด้วยช่วยกันให้ ไทยลีก บูมขึ้นกว่าตอนนี้

รวมถึงลีกรอง หรืออาจจะลีก 3 ด้วย

มองบนโต๊ะตอนนี้ เมื่อหน้าไพ่ของ ทรูวิชั่นส์ ถูกเปิดมาแล้ว เป็นโอกาสดีของ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่จะมีอำนาจต่อรอง ขอขยับราคาลิขสิทธิ์ ให้สมเหตุสมผล ให้หล่อเลี้ยงบอลไทยได้จริงๆ จังๆ

หรือก็ทำให้เกิดการต่อสู้กันมากขึ้น กับผู้ที่จะมาซื้อลิขสิทธิ์ไป เมื่อ ทรูวิชั่นส์ จะลงมาเล่นอย่างจริงจัง

ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกเปลี่ยนมือสู่ JAS จึงน่าจะมีเอฟเฟกต์ ผลดีต่อฟุตบอลไทยลีก

จากที่มองด้วยหางตา ตอนนี้อาจกลายเป็นของมีค่าของ ทรูวิชั่นส์ เสียแล้ว.

*** วุฒินล ***