เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 67 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ “อว.” ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติ หรือ “กภช.” จัดงานสัมมนาเปิดตัวแพลตฟอร์มกลางเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลภูมิสารสนเทศ (NGIS Platform) พร้อมบูรณาการข้อมูลให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ ณ ห้องกมลทิพย์ โรงแรมเดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับการใช้งานข้อมูลภูมิสารสนเทศมาก ซึ่งข้อมูลต่างๆ มีประโยชน์ต่อการใช้งานเพื่อความเป็นอยู่ของประชาชน เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านภูมิสารสนเทศของประเทศ ระยะ 5 ปี และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปใช้เป็นกรอบทิศทางและแนวทางดำเนินงาน
โดยภายใต้แผนดังกล่าว ได้กำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยมีความพร้อมด้านระบบภูมิสารสนเทศเพื่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยแผนฯ ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) การพัฒนาชั้นข้อมูลพื้นฐานของประเทศให้มีความพร้อม 2) การพัฒนาระบบให้บริการกลางของประเทศ รวมถึงส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลภูมิสารสนเทศ 3) การพัฒนาบุคลากรและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศ และ 4) การส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจด้วยภูมิสารสนเทศ ซึ่งงานในวันนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จตามเป้าหมายของแผน
ทุกวันนี้ ข้อมูลเชิงพื้นที่มีความสำคัญต่อการกำหนดนโยบายของรัฐ การพัฒนาประเทศทั้งการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการภัยพิบัติ การวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่เนื่องจากข้อมูลทั้งหลายกระจัดกระจายกันอยู่ในแต่ละหน่วยงาน รวมถึงยังบูรณาการอยู่ในเฉพาะภาครัฐทำให้ประชาชนทั่วไปหรือหน่วยงานเอกชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ แต่ในอนาคตคณะกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติกำลังทบทวนนโยบายในการกำหนดชั้นข้อมูล การจัดทำ ปรับปรุงข้อมูล รวมถึงนโยบายในการให้บริการที่ต้องเกิดการเผยแพร่ให้ภาคเอกชน ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ในทุกมิติ
ทางด้าน ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กภช. กล่าวว่า ระบบ NGIS Platform เป็นระบบกลางของประเทศที่ทำหน้าที่บูรณาการข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งการบูรณาการนี้ไม่ได้เป็นการนำข้อมูลมาไว้ที่ GISTDA แต่เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลจากต้นทางโดยตรง
การเปิดตัวระบบในวันนี้ ถือเป็นก้าวแรกในการบูรณาการข้อมูลภูมิสารสนเทศสำหรับประชาชน แต่ความสำคัญของการขับเคลื่อนคือการสร้างความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเพื่อดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลเข้ามาและการแบ่งปันทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการทำงานในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ และการศึกษาของประเทศ
ที่ผ่านมา กภช. ได้ดำเนินการพัฒนามาตรฐานภูมิสารสนเทศ การพัฒนาระบบสืบค้นและบริการภูมิสารสนเทศกลางของประเทศ การพัฒนาองค์ความรู้ให้กับบุคลากรภาครัฐในระดับท้องถิ่นให้สามารถเข้าถึงการบริการทางภาครัฐ และนำโครงสร้างพื้นฐานภูมิสารสนเทศของประเทศไปพัฒนากระบวนงานบริหารจัดการเชิงพื้นที่ และสนับสนุนข้อมูลต่อการตัดสินใจในระดับนโยบาย ซึ่งแผนปฏิบัติการด้านภูมิสารสนเทศของประเทศนี้ มีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ของประเทศตามนโยบายรัฐบาลที่จะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย