เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) พร้อมด้วยตัวแทน เดินทางยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าการยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบไต่สวนบุคคลที่เกี่ยวข้องในการเอื้อให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในช่วงระหว่างการรับโทษจำคุก 1 ปี ว่ามีการเจ็บป่วยวิกฤติจนถึงขั้นต้องนอนรักษาตัวนอกโรงพยาบาลราชทัณฑ์จริงหรือไม่ ซึ่งผู้ถูกร้องประกอบด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลกรมราชทัณฑ์, อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และอดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์, รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์, ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นข้อหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ทำให้เกิดกระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

นายพิชิต กล่าวว่า เรื่องนี้ทาง คปท. มีการยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2566 และที่ผ่านมาก็มีการทวงถามหลายรอบแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป วันนี้จึงเป็นการมาทวงถามเป็นครั้งที่ 4 และเป็นการทวงถามครั้งสุดท้าย และเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าหารือกับผู้ช่วย ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนโดยตรง หลังจากที่ผ่านมาได้พบเพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้น

ทั้งนี้ หลังจากยื่นหนังสือแล้ว นายพิชิตพร้อมด้วยตัวแทน ได้เข้าหารือกับนายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในคดีนี้ ซึ่งมารับหนังสือทวงความคืบหน้าด้วยตัวเอง โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 15 นาที

นายพิชิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกับผู้ช่วยเลขาฯ ป.ป.ช. ว่า หลังหารือกับผู้ช่วยเลขาฯ ป.ป.ช. ทราบว่าคณะกรรมการสืบสวนคดี ได้สรุปสำนวนเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้รับเอกสารเวชระเบียนที่ขอจากโรงพยาบาลตำรวจ ได้เพียงค่ารักษาพยาบาล ขั้นตอนจากนี้ ทางอนุกรรมการจะมีการสรุปสำนวนเสนอต่อต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้เกิดสภาพบังคับ ภายในเดือน พ.ย. 2567 ส่วนจะมีมติตั้งกรรมการไต่สวนจนไปสู่การชี้มูลกับใครบ้าง หรือจะตีตกสำนวนไปนั้น ผู้ช่วยเลขาฯ ป.ป.ช. ระบุว่า จะสรุปภายในเดือน ก.พ. 2568 ซึ่งทาง คปท. จะมาติดตามอีกครั้ง

นายพิชิต กล่าวว่า จากการเข้าหารือกัน เบื้องต้นถือว่าพอใจ หลังจากการเดินทางมาติดตามหลายครั้ง เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการชุดสืบสวนข้อเท็จจริง ดำเนินการอย่างเร่งด่วน และมีการส่งคำนวณ ภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ในปีหน้าจะมาติดตามอีกครั้ง

“ป.ป.ช. ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนเพื่อชี้แจงต่อสังคม เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่ คปท. เท่านั้นที่ร้องเรียนเข้ามา แต่สังคม ประชาชนทั่วไป ได้มีการติดตามเรื่องนี้ เพราะกรณีที่นายทักษิณ เข้ารับการรักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เกิดคำถามเกิดขึ้นมากมาย ป.ป.ช. ก็เหมือนพนักงานสอบสวนที่ต้องชี้แจง หากมีการชี้มูลออกมา สังคมก็คงไม่มีการตั้งคำถามอีก เพราะขั้นตอนต่อไปจะมีการสืบข้อเท็จจริง ต่อไปแต่หากไม่ชี้มูลใครเลย ป.ป.ช. ก็จะต้องให้คำตอบกับสังคม ไม่เช่นนั้น ป.ป.ช. จะเป็นจำเลยของสังคมเสียเอง” นายพิชิต กล่าว