การออกกำลังกายถือเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการมีสุขภาพดีมากขึ้น นอกจากการเรียนรู้วิธีการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพแล้ว หลายคนยังตั้งคำถามว่า การดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายมีประโยชน์หรือไม่?
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า กาแฟมี “กาเฟอีน” ซึ่งเป็นสารกระตุ้นอันทรงพลังที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นกีฬา และเพิ่มความแข็งแรงทางร่างกาย การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า ควรบริโภคกาเฟอีนอย่างเหมาะสม 40-60 นาที ก่อนการออกกำลังกาย จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และเพิ่มการออกซิเดชันของไขมัน ช่วยให้ร่างกายรักษาระดับพลังงานสูงตลอดการออกกำลังกาย
กาเฟอีนยังขึ้นชื่อในเรื่องกระตุ้นสมอง เพิ่มสมาธิ ลดความเหนื่อยล้า ช่วยให้ผู้ออกกำลังกายรู้สึกสดชื่นมากขึ้น สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหนักเป็นประจำ การดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมก่อนออกกำลังกาย จะให้ประโยชน์อย่างมาก
ประโยชน์ของกาแฟในการออกกำลังกาย
ปรับปรุงการเผาผลาญ
การดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกาย สามารถช่วยเพิ่มการเกิดออกซิเดชันของไขมัน เผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก
เพิ่มความอดทนระหว่างการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง
กาเฟอีนในกาแฟเพิ่มความทนทาน ในการศึกษาบางชิ้นพบว่า นักกีฬาที่บริโภคกาเฟอีนก่อนออกกำลังกาย มีความอดทนและประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 7.4% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่บริโภคกาเฟอีน ด้วยเหตุนี้กาเฟอีนจึงมักถูกมองว่าเป็น “เพื่อน” ในกิจกรรมกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องออกกำลังกายอย่างหนัก
ลดความรู้สึกเหนื่อยล้า
ประโยชน์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งของกาเฟอีน คือการลดความรู้สึกเหนื่อยล้า เนื่องจากกาเฟอีนสามารถกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และปล่อยโดปามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สร้างความรู้สึกตื่นเต้น ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวด
เพิ่มความสามารถในการมีสมาธิ
กาเฟอีนช่วยกระตุ้นสมอง และป้องกันอาการง่วงนอน จึงช่วยให้รักษาสมาธิ และเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย กาเฟอีนออกฤทธิ์โดยการจับกับตัวรับอะดีโนซีนในสมอง ทำให้เกิดความตื่นตัว ช่วยให้ออกกำลังกายได้ดีขึ้น
ปริมาณกาแฟที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คุณควรดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายประมาณ 40-60 นาที โดยมีคาเฟอีนในปริมาณ 3-6 มก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
หากคุณหนัก 50 กิโลกรัม ปริมาณกาเฟอีนที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง 150 ถึง 300 มก. ซึ่งเทียบเท่ากับกาแฟแก้วใหญ่
นอกจากกาแฟแล้ว คุณยังสามารถดื่มชา เครื่องดื่มชูกำลัง หรือโกโก้ร้อน ซึ่งล้วนเป็นแหล่งกาเฟอีนที่ดีต่อร่างกายทั้งสิ้น
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟใน 4 กรณีนี้
แม้ว่ากาแฟจะให้ประโยชน์มากมายต่อร่างกาย แต่ก็มีบางครั้งที่คุณต้องหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
- เมื่อคุณไม่ได้รับประทานอาหารเช้า
หลายๆ คนมักดื่มกาแฟในตอนเช้า แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การดื่มกาแฟขณะท้องว่างไม่ดีต่อสุขภาพ หลังจากตื่นนอน ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวตามธรรมชาติ จะอยู่ที่ระดับสูงสุด ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องเติมกาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายในเวลานี้ เวลาที่เหมาะในการดื่มกาแฟคือประมาณ 10.00-12.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับคอร์ติซอลเริ่มลดลง
- เมื่อเกิดความเครียด
กาเฟอีนในกาแฟสามารถเพิ่มระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดในร่างกาย เมื่อคุณอยู่ในภาวะเครียด กาแฟหนึ่งแก้วอาจทำให้อารมณ์ของคุณแย่ลงได้เนื่องจากจะไปกระตุ้นประสาทมากเกินไป เพื่อปกป้องสุขภาพจิตของคุณ ควรงดดื่มกาแฟ เมื่ออยู่ภายใต้ความกดดัน หรือความเครียด
- เมื่อนอนไม่หลับ
กาเฟอีนช่วยให้ร่างกายตื่นตัวในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ไม่มีผลในระยะยาวเมื่อคุณอดนอน หากคุณนอนหลับน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลาหลายคืนติดต่อกัน กาเฟอีนไม่สามารถชดเชยการนอนน้อยของคุณได้ ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายตื่นตัวและมีสุขภาพดี วิธีที่ดีที่สุดคือนอนหลับให้เพียงพอ แทนที่จะพึ่งกาแฟเพียงอย่างเดียว
- หลังออกกำลังกาย
การดื่มกาแฟทันทีหลังออกกำลังกายไม่เหมาะสม เนื่องจากอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและระงับความอยากอาหาร หลังจากออกกำลังกาย ร่างกายต้องการเชื้อเพลิงและความชื้นเพิ่มเติมเพื่อฟื้นตัว หากคุณดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนสูงในตอนนั้น คุณอาจต้องเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำที่รุนแรงยิ่งขึ้น
สรุปแล้ว การดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายมีประโยชน์มากมาย หากใช้อย่างเหมาะสมและถูกเวลา กาเฟอีนไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดความเหนื่อยล้า แต่ยังช่วยเพิ่มสมาธิและความอดทนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คุณต้องพิจารณาและปรับปริมาณที่เหมาะสม รวมทั้งไม่ควรดื่มกาแฟในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
ที่มาและภาพ : Soha