เมื่อวันที่ 12 พ.ย. โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิป เกิดเหตุช้างในขบวนแห่กฐินได้ตกมัน ทำร้ายผู้คน ที่ไปร่วมทำบุญและนั่งอยู่บนแหย่ง ทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ 2 คน ตกลงมาได้รับบาดเจ็บ ก่อนช้างเข้าทำร้ายซ้ำ จนบาดเจ็บสาหัส นำส่ง รพ.ปากคาด และเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น ส่วนผู้ชายอีกคน ถูกช้างที่คลั่งวิ่งเข้าชนอัดใส่ จยย.ที่ จอดอยู่ ได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกเช่นกัน

พ.ต.อ.ศิวัช วรคุตตานนท์ ผกก.สภ.ปากคาด กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ผ่านมา ร.ต.อ.จิรายุ ดวงแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคาด รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ปากคาด ว่า มีคนตกจากหลังช้างที่ตกมัน และถูกช้างทำร้ายซ้ำ ภายในงานแห่บุญกฐินสามัคคี ประจำปีของวัดสุทธิวนาราม หมู่ 11 บ้านห้วยก้านเหลืองน้อย ต.ปากคาด อ.ปากคาด โดยหลังเกิดเหตุทราบว่าผู้บาดเจ็บ ถูกหน่วยกู้ภัยชีพ อบต.ปากคาด และหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไล จุดปากคาด ได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาลปากคาด และเสียชีวิตเวลาต่อมา

ทราบชื่อ นางปรีญวรรณ์ หรือ กระแต การะกุลพูลเพิ่ม อายุ 47 ปี ชาว จ.หนองคาย มีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง ส่วนอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสตามหน้าอก ถูกนำตัวส่งรักษาต่อที่ รพ.หนองคาย ทราบชื่อ นายสมพร เบ้ามะโน อายุ 61 ปี ถูกงวงช้างดันไปติดกับรถ จยย. ที่จอดอยู่ข้างทาง

โดยในคลิปที่พุทธศาสนิกชนถ่ายเอาไว้ให้เห็นบรรยากาศ ก่อนขบวนแห่ มีพระสงฆ์และเจ้าภาพหลายคน ทยอยขึ้นหลังช้าง กว่า 10 เชือก และมีประชาชนจำนวนมากกว่า 1,000 คน เข้ามาร่วมในงาน มีขบวนแห่ตั้งแต่ปากทางเข้าวัดหลาย 100 เมตร มีขบวนฟ้อนรำที่สวยงาม ผู้คนร่วมเดินแห่ต้นกฐิน รถแห่ก็เปิดเพลงเสียงดังสนุกสนาน ขบวนช้างก็เดินนำหน้า มีชาวบ้านให้อาหาร ให้เงิน เป็นระยะๆ และมาร่วมถ่ายรูปกับช้าง ในช่วงหนึ่ง ช้างเล็ก เกิดอารมณ์หงุดหงิดโมโห ประกอบกับอากาศร้อนอบอ้าว จึงเกิดอาการส่ายหัวเหวี่ยงไปมาอย่างแรง พร้อมกับวิ่งวนไปมา นาทีนี้ทำให้ผู้คนทั้งผู้ใหญ่เด็กเล็กในขบวนแห่กฐิน วิ่งแตกกระเจิงหนีตายเอาตัวรอดกันอลหม่าน และนางปรีญวรรณ์ หรือ กระแต ที่นั่งอยู่บนหลังช้างก็ตกลงมา ช้างก็เข้าทำร้ายอีกครั้ง และทำร้ายชาวบ้านที่ยืนอยู่ใกล้อีก 1 ราย ควาญช้างที่อยู่ข้างล่างที่คอยควบคุม ก็รีบบังคับช้างให้ออกห่างจากผู้คน และสงบลงในเวลาไม่ถึง 1 นาที เบื้องต้นตำรวจยังไม่ตั้งข้อหากับใคร เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนญาติผู้ตายอยู่ระหว่างทำใจ และขอจัดงานศพให้เรียบร้อยตามประเพณีก่อน ถึงจะเข้ามาพบตำรวจอีกครั้ง