เมื่อวันที่ 12 พ.ย. เวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการความมั่นคง และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับรายละเอียดในการรักษาพยาบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลการรักษาได้เลย ว่า ต้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ไปชี้แจงเรื่องเดียวกันกับกรรมาธิการอื่นๆ เช่น กรรมาธิการตำรวจ เช่น วุฒิสภา แต่กรรมาธิการอื่นๆ เขาต้องการความรู้ แน่นอนว่าทุกคนมีความรู้ความสามารถ แต่กรรมาธิการนี้กลับแปลก ที่เอาคนซึ่งไม่ใช่กรรมาธิการ รวมถึงสื่อมวลชนเข้าไปจำนวนมาก และเหมือนจ้องเจ้าหน้าที่ ซึ่งแน่นอนว่า ในรายละเอียดนั้นเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ บางทีก็ไปพูดเรื่องเวชระเบียน เรื่องเคยผ่านตา ในการครบ 120 วัน ซึ่งหลักฐานมีความสำคัญกว่าเวชระเบียนอีก เช่น การตรวจ MRI ต่างๆ ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ และอยู่ในนั้นหมดแล้ว
“เราก็อยากเอาข้อมูลเหล่านั้นไปให้กับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่สอบสวน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ หรือบุคคลที่มีหน้าที่มาจ้องหาเศษหาเลยในการพูดให้เกิดความเสียหายกับทางรัฐบาล ยืนยันว่า การออกไปโรงพยาบาลก็ดี กฎหมายราชทัณฑ์ไม่ใช่พยาบาลวิชาชีพนะ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยังส่งไม่ได้ เพราะในต่างจังหวัดเราไม่มีหมอ และเราให้ความสำคัญ เพราะเราบอกว่าการที่ไปอยู่โรงพยาบาลก็เท่ากับเรือนจำชนิดหนึ่ง” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าขั้นตอนต่างๆ ของนายทักษิณนั้น พ.ต.อ.ทวี รับทราบทุกกระบวนการใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตอนนั้นตนยังไม่ได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรี แต่ดูที่รายงานพบว่า มีการทำถูกต้องตามกฎหมาย และบอกว่าเราเป็นข้าราชการอย่าไปโต้เถียงทางการเมือง เราเอาข้อมูลไปให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือคนที่มีอำนาจที่จะให้ได้ ในส่วนของกรรมาธิการนี้ เราก็ยินดีให้ความร่วมมือ แต่อาจจะต้องเปิดข้อบังคับกรรมาธิการดูว่า เมื่อเรื่องซ้ำกันแล้ว เคยสอบสวนแล้ว แล้วหน้าที่ของเขาเป็นเรื่องของความมั่นคง ขณะที่กรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ และหลายหน่วย ซึ่งทราบมากว่า 10 คณะ ก็ไม่มีความรุนแรงขนาดนี้.