เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เผยว่า ในปีนี้มีงานลอยกระทงใน กทม. 3 รูปแบบ คือ ลอยกระทงแบบประเพณีดั้งเดิม แบบดิจิทัล และแบบออนไลน์ โดยกระจายทั่วพื้นที่มากกว่า 140 จุด ถือเป็นเมืองที่มีการลอยกระทงมากที่สุดในประเทศ เพราะจะมีทั้งแม่น้ำลำคลอง สวนสาธารณะ แหล่งน้ำชุมชน และสถานที่เอกชน โดยหัวใจสำคัญการลอยกระทงคือ การลอยตามประเพณี ซึ่งมีการนำเสนอในระดับโลก

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพยายามทำความเข้าใจเรื่องการใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ แต่ยังพบการใช้โฟมหรือวัสดุย่อยยาก ซึ่งจากสถิติปี 60-66 มีสัดส่วนการใช้โฟมลดลง โดยปี 66 พบกระทงโฟม 20,877 ใบ และปีนี้ผู้ว่าฯ กทม.ตั้งเป้าให้เป็นศูนย์

สำหรับบริเวณสวนสาธารณะซึ่งเป็นระบบน้ำปิด นายศานนท์ ระบุ ต่อให้เป็นวัสดุธรรมชาติก็มีปัญหา โดยเฉพาะขนมปังที่เป็นแป้งและน้ำตาล เมื่อลงไปในแหล่งน้ำระบบปิดจะทำให้ปลาเสียชีวิต เช่นที่พบภายในสวนสันติภาพ ต้องใช้เวลาฟื้นฟูนานถึง 4 เดือน ดังนั้น จึงมีการรณรงค์ต่อเนื่องว่าต้องรักษาประเพณีควบคู่ไปกับรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ริเริ่มลอยกระทงออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ Greener Bangkok เพื่อลดปริมาณขยะ ส่วนการลอยกระทงดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนออกมานอกบ้านกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดขยะ โดยปีที่แล้วทดลองลอยดิจิทัลที่คลองโอ่งอ่าง ได้รับความสนใจจำนวนมากจนได้รับรางวัล จึงนำมาขยายผลจัดลอยกระทงดิจิทัล 4 แห่ง ได้แก่ Skywalk สี่แยกปทุมวัน ลานคนเมือง คลองโอ่งอ่าง และสวนสันติภาพ พร้อมยืนยันลอยกระทงประเพณีไม่ได้หายไปอย่างที่มีข้อกังวล แต่เป็นการจัดแบบดั้งเดิมผสมดิจิทัล

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล เพื่อขอขึ้นทะเบียนเทศกาลลอยกระทง เป็นมรดกทางวัฒนธรรมกับ UNESCO เช่นเดียวกับเทศกาลสงกรานต์ โดยคาดว่าจะเสนอต่อ ครม.ภายในวันที่ 31 มี.ค. 68.