กรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถเก๋งพุ่งชนรถจักรยานยนต์นับ 10 คัน บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ในจำนวนนี้ มี 2 ราย ซึ่งขี่รถจักรยานถูกรถเก๋งชนเข้าอย่างแรง จนขาผิดหักผิดรูปทั้ง 2 ข้าง คือ น.ส.สริธร ขำเหลือ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี และ น.ส.ชนาภา โพธิ์ดี อายุ 25 ปี ญาติกับ น.ส.สริธร ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลขนาดใหญ่ที่ขาซ้าย ถูกนำส่ง รพ.เจ้าพระยายมราช ส่วนสาวคนขับ อายุ 41 ปี อ้างมีโรคประจำตัว แล้วมีอาการกำเริบ ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 67 ดร.เอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี ดร.ศิริพร อินทร์ใจเอื้อ รองนายก นายอำพล ยุติโกมินทร์ ปลัดเทศบาลฯ ได้ไปเยี่ยม น.ส.สริธร และ น.ส.ชนาภา ซึ่งออกจาก รพ.มารักษาตัวที่บ้านพัก หลังจากได้รับการร้องเรียนว่าจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงาน
โดย ดร.เอกพันธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทาง อสม. ได้เข้ามาดูแลเรื่องการทำแผลผู้บาดเจ็บที่บ้านพัก และหาทางช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น แพมเพิส พร้อมให้ทางกองสาธารณสุขของเทศบาลฯ เข้ามาดูแล ส่วนบ้านที่พักอาศัย ที่ชำรุดทรุดโทรม ต้องไปดูในระเบียบว่าจะช่วยซ่อมแซมอย่างไรได้บ้าง เพราะเป็นบ้านเช่า อยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ก่อเหตุที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้ให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลบ้าง เท่าที่ทราบน้องยังไม่ได้รับการเยียวยาอะไรจากหน่วยงาน ส่วนผู้ก่อเหตุแค่ไปเยี่ยมที่ รพ.ให้เงินไว้ รวม 700 บาท กับผู้ป่วย 2 คน ตนคิดว่าไม่เหมาะสม เพราะน้องต้องนอนรักษาตัวตั้งแต่เดือน ก.ย. จนถึงปัจจุบันเกือบ 2 เดือน ผู้ที่ก่อเหตุน่าจะเข้ามาช่วยเหลือบ้าง
น.ส.สริธร กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตน และ น.ส.ชนาภา ใช้รถจักรยานสองล้อเป็นพาหนะ ปั่นไปหาแม่ที่เกิดเหตุ จู่ๆ ก็มีรถคันดังกล่าวขับพุ่งลงมาจากสะพานแล้วชนรถจักรยานที่ตนนั่งซ้อนท้าย และรถคันอื่นๆ ล้มระเนนระนาด แต่ตนโชคร้ายถูกชนจนขาหักผิดรูปทั้ง 2 ข้าง ต้องใส่เหล็ก นอนรักษาตัวที่ รพ. นานเกือบเดือน ส่วนญาติ คือ น.ส.ชนาภา ก็ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ ทำงานไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองก็ลำบาก ทำให้ไม่มีรายได้ ลำบากมาก ส่วนมารดาก็รับจ้างทั่วไป ได้วันละ 100-200 บาท บ้านก็ต้องเช่าเดือนละ 1,500 บาท อยากให้ผู้ก่อเหตุมาดูแลกันบ้างเพราะเดือดร้อนมาก
ด้านนางสำอางค์ พลอยรักษา อายุ 72 ปี มารดา น.ส.สริธร กล่าวว่า ครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะลูกสาวทำงานไม่ได้ ตนก็รับจ้างทั่วไป ตอนนี้ต้องมาดูแลลูกทำให้ขาดรายได้ เพราะลูกสาวยังช่วยตัวเองไม่ได้มากนัก ต้องนอนบนเตียงเนื่องจากขาใส่เหล็กทั้งสองข้าง ส่วนคนขับรถเก๋ง ไปเยี่ยมที่ รพ. และให้เงินไว้รวม 700 บาท หลังจากนั้นก็ไม่เคยมาอีกเลย แม้แต่กลับมารักษาตัวที่บ้านก็ไม่มา อยากให้ผู้ก่อเหตุมาดูแลกันบ้าง ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดจะมาสอบสวนเพิ่มเติมที่บ้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกสาวยังให้การไม่ได้ ตอนนี้ลำบากจริงๆ ไม่มีรายได้อะไรเลย อยู่กันแบบอดๆ อยากๆ ไปวันๆ บ้านก็ต้องเช่าเขาอยู่เดือนละ 1,500 บาท วอนหน่วยงานช่วยเหลือด้วย.