หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. นำกำลังบุกจับ “อาจารย์ฮวงจุ้ย” ชื่อดัง ได้ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี หลังศาลอาญา พิจารณาเห็นควรให้มีการอนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” และเตรียมคุมตัวเข้าทำการสอบปากคำเพิ่มเติมยังกองบังคับการปราบปราม โดยคดีนี้มีผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้มาแจ้งความกับ บช.ก. จากนั้นก็มีผู้เสียหายรายอื่นๆ เข้ามาแจ้งความอย่างต่อเนื่อง รวมการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งสิ้น 67 คน มูลค่าความเสียหาย 108 ล้านบาท
หนึ่งในคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ อาจารย์ฮวงจุ้ย และถูกพาดพิงถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็คือ นุกนิก หรือ ดีเจนุกนิก อดีตแฟนสาวของ แป้งฝุ่น ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ที่เลิกรากันไป ก่อนที่ นุกนิก จะไปเป็นแฟนสาวของอาจารย์ฮวงจุ้ย
โดยในรายการวันนี้ ได้ทั้ง นุกนิก และ แป้งฝุ่น มานั่งพูดคุยกันในรายการ ซึ่งได้เล่าที่มาที่ไป ของการที่นุกนิกไปรู้จักกับอาจารย์ฮวงจุ้ย ได้อย่างไร
โดยนุกนิกเล่าว่า ตอนนั้นเลิกรากับแป้งฝุ่น ไปได้ประมาณ 2 เดือน ตนไปทำงานดีเจเปิดเพลงที่ประเทศลาว ปรากฏว่าอาจารย์ฮวงจุ้ย ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เขาทักมาทางเฟซบุ๊ก ว่าเขาไปเที่ยวที่ลาว แล้วเห็นเราไปเปิดเพลง แต่ตัวเขาลืมแหวนเอาไว้ จะรบกวนฝากถือแหวนนี้กลับมาคืนที่ กทม. หน่อยได้ไหม โดยได้ให้คนขับรถ เอาแหวนนี้มาฝากกับตน
หลังจากนั้น ได้มีการนัดหมายคืนแหวน ซึ่งตอนที่มาเจอกัน เขาก็ถามว่าเรามีงานจะไปทำงานที่ไหนต่อ เราบอกว่าเราจะไปทำงานดีเจที่เมียนมา เขาบอกว่ามันไม่ปลอดภัยเพราะมีการสู้รบอยู่ เขาอยากจะไปเป็นเพื่อน ตอนนั้นเราพอจะรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร เขาอยากไปก็ไป แต่ไม่ได้พักด้วยกัน บินไฟลต์เดียวกัน แต่ตนไปกับเพื่อน พอไปถึงเมียนมา เขาก็บอกให้ย้ายโรงแรมมาอยู่โรงแรมที่เขาจอง เพราะปลอดภัยกว่า และเป็นโรงแรมที่เกรดดีกว่า เราก็ไป ช่วงแรก อาจารย์ฮวงจุ้ย ไม่ได้มีท่าทีมาจีบ เขาก็ดูเป็นสุภาพบุรุษดี จนเขาแนะนำให้ไปทำงานกับเขา เป็นเหมือนเลขาฯ ส่วนตัว จ้างเดือนละ 1.5 แสนบาท โดยช่วงแรกก็แค่ทำงาน หลังๆ เริ่มสนิทสนมกัน ก็เลยคบหาเป็นแฟนกัน ช่วงที่คบกัน มารู้ว่าเขาติดพนัน ตอนที่ไปเที่ยวเมืองนอกด้วยกัน เขาเล่นพนันหนักมาก แล้วยังมาทราบทีหลังว่า อาจารย์ฮวงจุ้ย ไปยืมเงินเพื่อนของนุกนิกเยอะมาก โดยเขาไปคุยกันเองกับเพื่อนของตน โดยที่ตนไม่รู้มาก่อน แล้วมายืมเงินตนหลายแสน ซึ่งก็ทวงคืนจนได้คืนมา
จนอยู่ด้วยกันไปได้สักพัก เริ่มอึดอัดมาก เพราะมาทราบว่าเขามีลูกเมีย แล้วเขาก็บังคับไม่ให้เจอใครเลย แล้วเขายังเอามือถือนุกนิกไป เขาเอาบัญชีธนาคารของนุกนิก ไปใช้ในการรับเงินและจ่ายเงิน โดยมีรหัสเข้าเครื่องที่เราเคยบอกเขาไว้ กับรหัสแอปธนาคารที่เราจดไว้ในโน้ตในมือถือ อาจารย์ฮวงจุ้ยมีวิธีเอาเงินออกไปจากบัญชีเราหลายวิธี ทั้งโอนออกไปเป็นเงินสด ถ้าต้องโอนเกินลิมิตที่แอปกำหนด แล้วต้องสแกนหน้า เขาก็จะบังคับให้เราสแกน แล้วบางทีก็เอาแอปบิตคอยน์ มาสแกนออกจากแอปธนาคาร เพื่อเลี่ยงไม่ต้องใช้การสแกนใบหน้า เวลาจะเอาเงินออกไปเยอะๆ
นุกนิกยืนยันว่า ไม่รู้เรื่องว่าเงินเข้าเงินออกที่ผ่านบัญชีของตน เข้ามาจากไหน ออกไปที่ไหน อาจารย์ฮวงจุ้ย เป็นคนจัดการเองหมด ตนเคยบอกว่าไม่อยากให้มายุ่ง มาใช้บัญชีของตน แต่เขาก็ไม่ยอม
ก็เลยพยายามจะหนี ขอความช่วยเหลือไปที่แป้งฝุ่น จนแป้งฝุ่นมาช่วยออกไปในรอบแรก แต่ตอนนั้นหนีมาโดยที่เอามือถือเครื่องสำคัญที่อาจารย์ไปฝากไว้กับแม่ ปรากฏว่าอาจารย์ไปตามหานุกนิกที่บ้านแม่ของนุกนิก ไปโวยวาย อาละวาด แล้วแย่งเอามือถือนุกนิกมา โดยทำทีว่าสลับเครื่องในเคส แล้วคืนให้แม่ไป แต่เครื่องที่คืนให้แม่เป็นเครื่องอื่น ไม่ใช่เครื่องของนุกนิก เพื่อหลอกแม่ว่าคืนมือถือให้แล้ว
ต่อมาเขาขู่กับนุกนิกว่า ถ้าอยากได้โทรศัพท์คืน ให้ไปเอาที่เขา แล้วจะให้โทรศัพท์คืน แล้วจะปล่อยไป จะให้กลับ ด้วยความที่มือถือเครื่องนั้นเป็นเครื่องมือทำมาหากิน เราก็เลยไป แต่พอไป เขาก็มาง้อ มาอ้อนวอนขอโอกาส เรากลัวจะถูกทำร้ายร่างกาย ก็เลยกลับไปอยู่กับเขา แล้วรอบนี้โดนคุมเข้มยิ่งกว่าเดิม เขาไม่ให้เราติดต่อใครเลย
จนมาทราบเรื่องว่าเขากำลังมีเรื่อง มีคดี จากรายการโหนกระแส ตอนนั้นตนคิดว่าอยู่กับอาจารย์ฮวงจุ้ย ไม่ได้แล้ว จึงโทรฯ บอกให้พี่สาวมารับ แต่พี่สาวมา อาจารย์ก็ยังไม่ให้กลับ แล้วบอกว่ามีเรื่องกันอยู่จะมาทิ้งกันได้ยังไง ไม่ให้กลับ เดี๋ยวจะพานุกนิกไปพักผ่อน พักสมอง
จากนั้นเขาพาตนไปอยู่ที่รีสอร์ทย่านรังสิตก่อน 1 คืน เช้ามาเขาก็ให้ลูกน้องชื่อบลู ขับรถพาไปส่งที่รีสอร์ทที่หนองคาย ใกล้กับด่านชายแดน แต่ว่าไม่ได้พยายามจะข้ามแดนไปไหน อยู่ที่นั่น 3 วัน โดยที่อาจารย์พยายามประกบตนตลอด ตอนนั้นไม่มีมือถือ ไม่มีเครื่องมือสื่อสารติดตัวสักอย่าง เพราะเขาให้ทิ้งไว้ที่บ้านหมด อาจารย์จะมีมือถือที่ซื้อมาใหม่ติดตัว 1 เครื่อง แต่ไม่ให้ตนติดต่อใครเลย ถามอะไร ขอติดต่อใครก็ไม่ได้สักอย่าง
นุกนิกบอกว่า พยายามขอร้องให้พาตนกลับบ้าน เกลี้ยกล่อมให้เขามอบตัว จนสุดท้ายเขาพาเรากลับมา กทม. โดยแยกกันที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เขาไปไหนไม่รู้ ส่วนตนกลับบ้านที่บางใหญ่ แล้วติดต่อ กัน จอมพลัง ให้มาช่วยเหลือทันที
ด้านทนายแก้วบอกว่า เท่าที่ฟังนุกนิกเล่ามา จะบอกว่าเป็นเหยื่อ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ถูกข่มขู่ ก็เป็นได้ แต่ต้องไปแจ้งความเอาผิดเขาในความผิดนี้ แต่ถ้ามีการพิสูจน์ว่า นุกนิกมีการไปร่วมกับการกระทำความผิด ไปรู้เรื่องในการหลอกลวงคน ก็อาจจะถูกดำเนินคดีในฐานะตัวการร่วมได้เช่นกัน
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม บอกว่า เท่าที่ฟังเป็นประโยชน์ต่อคดี หลังจากนี้ก็ให้เข้ามาให้ปากคำ เพื่อจะขยายผลในคดีของอาจารย์ฮวงจุ้ยต่อไป ส่วนหมายจับตอนนี้ยังไม่มีเกี่ยวกับคนอื่น ยังเป็นแค่ของอาจารย์ฮวงจุ้ย คนเดียว
อีกคนที่โฟนอินเข้ามาในรายการ คือ คุณเอ ภรรยาของอาจารย์ฮวงจุ้ย ซึ่งแต่งงาน มีลูกด้วยกัน เล่าว่า ในส่วนของครอบครัว ตนกับอาจารย์ฮวงจุ้ยทำหน้าที่ดูแลลูก แต่ความสัมพันธ์เรื่องสามีภรรยา ห่างกันมานานแล้ว
ส่วนเรื่องธุรกิจ ตนเป็นพนักงานบริษัทของเขา ไม่ได้อยู่บ้านเขากินเงินฟรีๆ ต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงลูก เขาไม่ได้จ่ายเงินเลี้ยงดูลูกตามที่พ่อแม่ควรทำ แล้วยังมีการยืมเงินของตนไปด้วย ทวงก็ไม่ได้คืน ส่วนเรื่องนิสัยการเล่นพนัน เขาเล่นพนันหนักพอสมควร อันนี้เป็นสิ่งที่ตนเห็นมานาน
เมื่อเช้านี้มีไลน์แอดมา เป็นไลน์ใหม่ของเขา แอดมาบอกว่า อยากเห็นหน้าลูกกับเมีย ก่อนที่จะไปมอบตัว สุดท้ายไปถูกจับกุมในที่สุด
เรื่องผู้หญิง อาจารย์ฮวงจุ้ย มีผู้หญิงมาตลอดตั้งแต่แต่งงานกับตน เรื่องนุกนิกก็รู้จากเพื่อน เพื่อนแคปมาให้ดูตลอด ขนาดเวลาตนไลฟ์ขายของ นุกนิกยังเข้ามาดูอยู่เลย ซึ่งนุกนิกก็ยอมรับว่าเข้าไปดูจริงๆ เพราะอยากรู้ว่าเขายังติดต่อกันอยู่ไหม ยังใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากันอยู่ไหม และยินดีจะเข้าไปให้ปากคำกับตำรวจ ในส่วนของข้อมูลที่ตนมี เพื่อเป็นประโยชน์กับคดีต่อไป