เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือทนายรณรงค์ ให้สัมภาษณ์กรณีเกี่ยวกับเรื่องการจับกุมของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ว่า ต้องเข้าใจและรับสภาพให้ได้ ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าคนรอบตัวจะบอก พี่ตั้มสู้ ๆ ยังไงก็ตาม แต่ต้องคำนึงถึงหลักฐานและสิ่งที่มันเกิดขึ้นด้วย พร้อมยืนยันว่า “กูยังไม่เห็นทางรอดมันเลยเนี่ย” แต่ทั้งนี้ ตนไม่ได้อยากจะออกมาวิจารณ์อะไร

เรื่องประเด็นเงินนั้น หากบอกว่าเป็นการยืมหรือเป็นโครงการ ถ้าตามหลักกฎหมาย การยืมมากกว่า 2,000 บาท ต้องมีสัญญา อันนี้ยืมกี่สิบล้าน แต่สัญญาไปไหน หรือถ้าบอกว่าเป็นการให้โดยเสน่หา พลิกไปเป็นการลงทุน ก็ต้องไปแก้ต่างเอาว่า เข้าองค์ประกอบความผิดไหม ทั้งนี้ต้องติดตามต่อไปว่า จะสามารถประกันตัวภรรยาของทนายตั้มออกมาได้หรือไม่

ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าไม่ผิดจริง จะกินเยี่ยว 71 แก้วนั้น ตนยืนยันว่าเขาท้า ตนไม่ได้ท้า ไม่ได้แบ่ง ไม่มีเสิร์ฟด้วย ใครอยากเสิร์ฟให้เขาก็ไปแบ่งเขาเอง แต่ตอนนี้ดูหน้าก็รู้แล้วว่าใครจะกิน แต่พูดได้เหรอ เดี๋ยวรอให้เขามีโอกาสออกมาข้างนอกก่อน แล้วค่อยถามเขาดีกว่า ว่าจะกล้าทำจริงไหม แต่ตอนนี้ดูทรงไม่รู้ว่าจะออกมาได้ไหม ตนคิดว่าไม่ต่ำกว่า 12 ปี กว่าจะได้ออก เพราะถ้าไม่ได้ประกันตัว มันก็จะยาวไปเรื่อย ๆ

ส่วนเรื่องตนจะไปเยื่ยมทนายตั้มหรือไม่นั้น เดี๋ยวรอนักข่าวไม่ถาม แล้วตนจะไปเยี่ยม ไปเงียบ ๆ ไม่อยากเป็นข่าว คิดว่าคงไปเยี่ยมเพราะว่าทนายตั้มคงไม่ได้ออกมาแล้ว ให้ทำไงได้ ไปเยี่ยมในฐานะเพื่อน แต่เขาจะให้เยี่ยมหรือเปล่ายังไม่รู้เลย อาจจะไปแล้วเข้าไม่ได้ เพราะต้องขออนุญาตเขาก่อน แต่อยากไปเยี่ยม เพราะถ้ามีญาติเขามาถาม ตนก็ยังตอบญาติตอบลูกเขาได้ว่าไปเยี่ยมมาแล้ว เท่านั้นเอง พร้อมยืนยัน ถึงจะเสียใจแค่ไหนก็ไม่เคยโกรธ มันเป็นที่ตัวเราเอง ไม่ได้เกี่ยวกับคนอื่น