เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด จำนวน 14,549,503,800 บาท ว่า จากคำพิพากษา ระบุว่า เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่ชี้มูลความผิด จึงไม่มีผลต่อสัญญาและการชำระหนี้ ในคดีหมายเลขดำที่ 09-3-052/2560 ลงวันที่ 10 ม.ค. 66 ถึงผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) กรณีกล่าวหาว่าอดีตผู้ว่าฯ กทม. กับพวกรวม 13 คน กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีขยายอายุสัญญาสัมปทานหรือทำสัญญาเพิ่มเติมให้กับผู้ฟ้องคดีให้ประกอบกิจการระบบขนส่งมวลขนกรุงเทพมหานครต่อไปอีก 13 ปี ทั้งที่ยังเหลืออายุตามสัญญาเดิมอีก 17 ปี อันเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ฟ้องคดี

จากการประชุมร่วมกับคณะกรรมการวิสามัญฯ สภากรุงเทพมหานครในเรื่องนี้ ได้ข้อสรุปว่า ให้ กทม.ส่งเรื่องให้ศาลฯ พิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง เนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดประเด็นดังกล่าวไปแล้วเมื่อเดือน ก.ย.66 เมื่อ กทม.ส่งเรื่องให้ศาลฯ พิจารณาคดีใหม่ จึงได้รับคำตอบจากศาลฯ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 67ที่ผ่านมา ว่า ไม่รับพิจารณาคดีใหม่ เนื่องจากได้พิจารณาเรื่องนี้ไปแล้ว ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อมูลใหม่ ไม่มีผลต่อคำพิพากษา ปัจจุบัน กทม.อยู่ระหว่างรออัยการส่งคำตอบอย่างเป็นทางการจากศาลฯ มาให้

นายชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า กทม.จึงมี 2 แนวทางคือ 1.การอุทธรณ์ใหม่ แต่ศาลปกครองสูงสุด ระบุว่าไม่เป็นข้อมูลใหม่ เป็นข้อเท็จจริงที่ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาไปแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องอุทธรณ์ใหม่ และ 2. เตรียมนำเรื่องเข้าสภากรุงเทพมหานคร ให้มีการอนุมัติเงินสะสมจ่ายขาดชำระหนี้คืนกับเอกชนต่อไป ซึ่งจะมีการขอเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญในเร็วๆนี้ เนื่องจากได้ทำตามคำแนะนำจากคณะกรรมการวิสามัญฯแล้ว และเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าศาลฯ ได้พิจารณาประเด็น ป.ป.ช.ไปแล้ว ซึ่งเนื้อหาที่ยื่นไปคงเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมเรื่องคำตอบจากศาลฯ แนบไปด้วย

นายชัชชาติ ระบุว่า เราก็กังวลเรื่องค่าปรับ จึงต้องรีบทำ จะมีการขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญสภา กทม.ในเร็วๆนี้ ที่มีการหารือกับ ส.ก.บางคน เพราะต้องทำงานร่วมมือกันระหว่างฝ่ายบริหารกับ ส.ก. เพราะตนไม่มีอำนาจอนุมัติเงินอยู่แล้ว ไม่อยากให้เรื่องกลับไปกลับมา อยากให้เข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน โดยหวังว่าจะใช้หนี้ให้ทันภายใน 180 วัน.