จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกเข้าไปยิง นายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม อายุ 55 ปี ซึ่งนายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ หรือ “นายกอาร์ม” เสียชีวิตในห้องประชุมของ หจก.แฮนด์ อิน แฮนด์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ย. เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เป็นปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 19 ปลอก ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน 10 พบว่า ปลอกกระสุนปืนดังกล่าว เป็นปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 ที่ยิงมาจากอาวุธปืน AK 102 ซึ่งสามารถใส่กระสุนปืน เอ็ม 16 ได้ โดยคนร้ายใช้ก่อเหตุคดีความมั่นคงในพื้นที่ อ.ตากใบ และในพื้นที่ อ.รือเสาะ มาทั้งสิ้น 23 คดี ซึ่งคดีบุกยิง นายวิเชษฐ์ เป็นคดีที่ 24

โดยก่อนหน้านี้ คนร้ายใช้ก่อเหตุบุกยิง นายวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะ คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าว ก่อเหตุตามประกบยิง สมาชิกเอกอมร บุตรทองบุญ และสมาชิกเอกสนธยา ชัยสิทธิ์ ซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนสิทธิสารประดิษฐ์ ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา

ที่สำคัญในคดีนี้ เชื่อว่ามีคนภายในโรงงานรู้เห็นหรือแจ้งเบาะแส มิเช่นนั้นกลุ่มคนร้ายจะเจาะจงบุกเข้าไปยิง นายวิเชษฐ์ ในห้องประชุมได้อย่างไร โดยที่ไม่ต้องมีการค้นหาเป้าหมาย เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายได้ล็อกไว้ โดยไม่ได้ทำร้ายบุคคลอีก 3 คน ที่ได้มีการพูดคุยอยู่กับ นายวิเชษฐ์ แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ซึ่งเป็นชุดคลี่คลายคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าว

จากการจับกุมสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงรายหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ตากใบ คือ นายซูกิฟรี มือราเฮง ในช่วงก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนปากคำถึงการเคลื่อนไหวของสมาชิกในกลุ่ม จะมีความเชื่อมโยงกันระหว่างสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.ตากใบ กับ อ.รือเสาะ โดยจะมีอาวุธปืนเป็นของส่วนรวม หรืออาวุธปืนเป็นของกลางใช้ก่อเหตุร่วมกัน ซึ่งจะรู้ในสมาชิกกลุ่มว่าปืนของกลางหรือของส่วนรวมจะแอบซุกซ่อนไว้ที่ใด ที่สมาชิกในกลุ่มจะสามารถนำเอาออกมาใช้ก่อเหตุได้ทันที และเมื่อก่อเหตุแล้วเสร็จ จะต้องนำกลับไปไว้ที่เดิม ซึ่งจะมีการเคลื่อนย้ายที่เก็บของกลางอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น และป้องกันการตรวจยึดของเจ้าหน้าที่

ด้าน นางรัชดา ไทยทองนุ่ม ภรรยานายวิเชษฐ์ หรือนายกอาร์ม กล่าวว่า มันเป็นเหตุการณ์ที่กะทันหัน ถ้าแกไม่สบายป่วย พี่ก็จะได้ดูแล พูดคุยสอบถามและรักษาแกไปแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่ได้มีการร่ำลาเลย เช้าวันเกิดเหตุ แกมาส่งพี่ที่โรงเรียนอนุบาลรือเสาะ แล้วแกก็ขับรถไปทำงาน แล้วประมาณ 11 โมงเศษๆ ก็มีน้องๆ แจ้งข่าวว่าแกถูกยิง ขอให้พ่ออาร์ม เดินทางไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องกังวล ในช่วงที่ผ่านมา มีความภูมิใจในตัวสามี แกเป็นคนท้องถิ่น แกทำงานเพื่อคนในท้องถิ่น ตอนนี้ไม่ใช่เฉพาะท้องถิ่น แกทำงานสร้างคุณงามความดี สร้างคุณประโยชน์ให้กับจังหวัดด้วย เพราะว่าตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย มันเยอะจนพี่จำไม่ได้

นอกจากนายกเทศมนตรีเทศบาลรือเสาะ ก็จะเป็นนายกสมาคมกีฬาเยอะแยะมากมาย ที่สะเทือนใจก็คือว่า โรงงานอุตสาหกรรมที่แกก่อตั้งมาด้วยมือ ตั้งแต่แกเขียนโครงการไปอุตสาหกรรมจังหวัด ไปอุตสาหกรรมภาค ไปกรุงเทพฯ แกทำด้วยมือของแกเอง จนก่อร่างสร้างตัวเป็นโรงงาน มุ่งมั่นตั้งใจทุ่มเททุกอย่าง เพื่อให้สร้างเงิน สร้างงาน สร้างอาชีพคนในชุมชนชาวบ้านได้มีงานทำ แต่สุดท้ายตรงนั้นเป็นหัวใจของแก และไปเสียตรงนั้น มันสะเทือนใจ

“…อีกไม่นาน ท่านนายกก็จะหมดวาระ ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นตรงนั้น แต่ในเรื่องอื่นๆ พี่ไม่ทราบจริงๆ เพราะว่าท่านนายกอาร์มเป็นคนที่ไม่เอาปัญหาเข้าบ้านเลย กลับเข้าบ้านจะยิ้มแย้มแจ่มใส จะพูดคุยกับลูกภรรยาหลาน จะไม่รับภาระปัญหาที่สร้างความไม่สบายใจ จะไม่พูดให้ครอบครัวได้รับทราบเลย พี่เลยไม่ทราบว่าจะมีปัญหาขัดแย้งกับใครหรือเปล่า…” นางรัชดา กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีความคิดเห็นส่วนตัว ที่คนร้ายบุกยิงสามีเสียชีวิตในครั้งนี้ คิดว่าน่าจะมาจากประเด็นใด นางรัชดา กล่าวว่า ไม่ทราบเลยค่ะ อันนี้ต้องรอการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ ท่านผู้ว่าฯ ก็ให้ความมั่นว่าจะจับตัวคนร้ายมาให้ได้