เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 67 ภายหลังศาลอาญาอนุญาตให้ฝากขัง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ตามคำร้อง ขณะที่นางปทิตตา ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวด้วยเงินสด 500,000 บาท พร้อมเงื่อนไขขอติดอุปกรณ์ EM ศาลพิจารณายกคำร้อง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวนายษิทรา ขึ้นรถคุมขังปลายทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วนนางปทิตตา ปลายทางทัณฑสถานหญิงกลาง ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า สำหรับขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวนายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และนางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำทะเบียนประวัติผู้ต้องขังเข้าใหม่ อาทิ การตรวจสุขภาพร่างกาย การพิมพ์ลายนิ้วมือ เป็นต้น จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วันตามมาตรการป้องกัน อีกทั้งจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งการปฐมนิเทศจะอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนพิจารณาจำแนกลักษณะผู้ต้องขังไปควบคุมต่อยังแดนภายในเรือนจำฯ

รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า ส่วนข้อกังวลว่ากรณีนายษิทรา หรือ ทนายตั้ม หากครบกำหนดกักโรคแล้วจะต้องย้ายส่งต่อแดนใด เพราะอาจเสี่ยงพบเจอคู่กรณีกลุ่ม 18 บอสดิไอคอนฯ นั้น ตนขอชี้แจงว่าตามขั้นตอนของราชทัณฑ์ จะมีเจ้าหน้าที่พิจารณาความเหมาะสมและคำนึงถึงความปลอดภัย อีกทั้งขณะนี้กลุ่มบอสชายทั้ง 11 รายได้ถูกแยกแดนเป็นที่เรียบร้อย โดยอยู่แดนละ 2-3 รายกระจายกันไป แต่ขอสงวนการเปิดเผยรายละเอียด นอกจากนี้ เรือนจำฯ ยังต้องตรวจสอบคู่กรณีของนายษิทรา ในคดีอื่นด้วยเพื่อความปลอดภัย

รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยต่อว่า สำหรับเมนูอาหารมื้อเย็นในวันนี้ (8 พ.ย.) เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเมนูข้าวสวย ไก่ต้มขมิ้น และไข่ต้ม ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นข้าวสวย หลนปลาร้า/ผักสด และผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น.