เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตำรวจกองปราบ คุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พร้อมนางปทิตตา มาดำเนินคดี รวมเวลานานกว่า 5 ชั่วโมง โดยการแยกสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ก็ยังไม่เสร็จสิ้น โดยมีทนายความจากบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม มาร่วมรับฟังการสอบปากคำอย่างเคร่งเครียด

‘บิ๊กอ้อ’ เผยตร.ตามจับ ‘ทนายตั้ม-เมีย’ ชี้พฤติการณ์หลบหนี เตรียมพาฝากขังศาล

พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่เดินทางมาเข้าร่วมสอบสวน เปิดเผยว่า การสอบปากคำนายษิทรา และภรรยา ยังคงมีหลายประเด็นที่ยังพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงไม่ได้ คาดว่าต้องใช้เวลาสอบปากคำถึงเวลา 22.00 น. ก่อนพิจารณาว่าจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปคุมขังที่ห้องขังหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะให้การเป็นประโยชน์กับรูปคดีเพียงใด

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.) ชุดสืบสวนกองปราบ เข้าตรวจค้นบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม และเป้าหมายต้องสงสัยอีกหลายแห่งเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนการฝากขังทนายตั้มและภรรยาต่อศาลอาญานั้น มีรายงานว่าหากเร็วที่สุดก็น่าจะช่วงก่อนเวลาเที่ยงวันที่ 8 พ.ย.นี้ ภายหลังจากการตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัย เสร็จสิ้นแล้วร่วมทั้งพนักงานสอบสวนจะขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาด้วย

รายงานข่าวแจ้งอีกด้วยว่า สำหรับบรรยากาศการสอบปากคำทนายตั้มและภรรยา มีรายงานว่า ผู้ต้องหาค่อนข้างมีอาการเครียด เนื่องจากผู้ที่เข้าร่วมทำการสอบสวนล้วนเป็นนายตำรวจระดับสูงของ บชก.อาทิ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ“บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขันธ์ ผบก.ป. ซึ่งผิดกับเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ทนายตั้มโผล่เข้ามาแถลงข่าวกับสื่อฯที่มาเฝ้ารอทำข่าวที่หน้าตึกกองปราบฯ เป็นจำนวนมาก ซึ่งภายหลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้นแล้วทางทนายดังจะขอขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของ บชก. โดยแจ้งกับตำรวจเวรรักษาการณ์ว่า จะขอขึ้นไปพบนายตำรวจระดับใหญ่ หรือว่าขอเป็นเบอร์ต้นๆของบชก.เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า หากไม่ได้นัดหมายมาก่อนก็ขึ้นไปพบไม่ได้ สร้างไม่พอใจกับทนายตั้มก่อนที่จะเดินทางออกจาก บชก.ไป ก่อนที่จะถูกตามจับกุมได้ดังกล่าว ทำให้ได้เข้าพบกับนายตำรวจระดับสูงจริงๆ