ที่ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 67 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิด Thailand Pavilion แสดงภาพลักษณ์ประเทศไทย ในฮอลล์ Country Exhibition ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน China International Import Expo หรืองาน CIIE ครั้งที่ 7 ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ จำนวน 20 บริษัท อาทิ อาหาร ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และธุรกิจบริการเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ บนพื้นที่กว่า 250 ตารางเมตร คาดเกิดมูลค่าเจรจาการค้าไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท และสาธิตการทำอาหาร เมนูแกงมัสมั่น บริโภคกับข้าวหอมมะลิไทย เพื่อแจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองชิม และช่วยโปรโมตซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้วย

นายพิชัย กล่าวว่า งาน CIIE เป็นงานที่ประเทศจีน จัดเพื่อเปิดกว้างสำหรับทุกประเทศให้เข้ามาขายของ ถือว่าเป็นโอกาสดีของไทยในการเข้ามา ครั้งนี้มี 80 บริษัทเข้าร่วม โดยเป็นของกระทรวงพาณิชย์ 20 บริษัท มีทั้งเรื่องอาหารไทย ซอฟต์พาวเวอร์ ฟิล์ม มวย ข้าวและปีนี้มีข่าวดี ที่เพิ่งได้รับรายงานจากกรมการค้าต่างประเทศว่า ไทยส่งออกข้าวได้มากเกินเป้าจากที่คาดว่าจะได้ 8.2 ล้านตัน ตอนนี้ทะลุ 9 ล้านตันแล้ว ปลายปีต้องมากกว่านี้ ถือเป็นข่าวดีของชาวนาไทย ขอเชิญชวนคนจากทั่วโลกให้มาช่วยซื้อของไทยเยอะๆ มาเป็นลูกค้าประจำของสินค้าไทย มาอุดหนุนเสน่ห์ซอฟต์พาวเวอร์ไทยกันให้มาก ถ้าทดลองใช้ของไทยแล้วจะติดใจ ทั้ง อาหาร ผลไม้ นวด ชกมวย มาใช้ของไทยแล้วจะชอบ

ต่อจากนั้น รมว.พาณิชย์ ยังได้เป็นประธานเปิดบูธจัดแสดงสินค้าของหน่วยงานพันธมิตร เช่น หอการค้าไทยจีน ที่ขนทัพแบรนด์สินค้าไทย เช่น มาม่า ส.ขอนแก่น ชบา มาร่วมจัดแสดง จับคู่ธุรกิจ จำหน่าย แจก รวมถึงเอกชนไทยรายใหญ่ที่มีแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เช่น ซีพี มาร่วมแสดงศักยภาพของสินค้าและบริการไทยด้วย สำหรับสินค้าไฮไลต์ที่นำมาโชว์ในงาน เช่น ผงน้ำมะพร้าวฟรีซดราย กะทิอัดเม็ด น้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ขนมครกและขนมบ้าบิ่นสำเร็จรูป น้ำจิ้มฟรีซดราย เครื่องแกง ผงปรุงรส ทูน่าสเปรดแบบวีแกน อาหารแพลนต์เบสพร้อมรับประทานและพร้อมปรุง ผลไม้ฟรีซดราย ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น

นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการโปรโมตซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยในจีน ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ในจีน 7 แห่ง ได้ผนึกกำลังกันโปรโมตอย่างเต็มที่ โดยใช้โอกาสช่วงที่ภาพยนตร์ “หลานม่า” เข้าไปฉาย ได้ร่วมมือกับร้านอาหาร Thai SELECT 37 แห่ง ใน 13 เมือง (ปักกิ่ง ชิงเต่า หนานจิง ซูโจว เซี่ยงไฮ้ หางโจว เซี่ยเหมิน ฝูโจว กว่างโจว หนานหนิง คุนหมิง ฉงชิ่ง และเฉิงตู) ในการเป็นจุดโปรโมต และบางร้านได้จัดเสิร์ฟเมนูพิเศษจากภาพยนตร์หลานม่า เช่น ปลาทอดสมุนไพร ก๋วยเตี๋ยว และโจ๊กอาม่า เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้ลิ้มลองรสชาติเมนูจากภาพยนตร์ดังกล่าวด้วย

“อนาคตผมเชื่อว่าจีนจะเป็นประเทศที่มีรายได้ประชาชาติสูงสุดในโลก และหวังว่าไทยจะร่วมมือกับจีนในการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยกัน ปัจจุบันจีนมีการลงทุนในไทยสูงที่สุด หวังว่าการค้าการลงทุนระหว่างไทย-จีน จะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หวังว่าจีนจะเห็นไทยเป็นคู่ค้าและเป็นพี่น้องกัน ขอบคุณจีนที่เปิดกว้าง เราจะขายของให้จีนได้มากขึ้น เมื่อวานได้พบผู้ประกอบการ 16 ราย กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายหลักในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยค้าขายในจีนหรือประเทศต่างๆ ได้มากขึ้น เราอยากสนับสนุนส่งเสริม 80% อีก 20% เป็นแค่เรกูเลเตอร์กำกับดูแล เน้นส่งเสริมสินค้าไทย ผู้ประกอบการไทยออกมาขายของได้มากๆ อยากเห็นการค้าไทยขยายตัวมากๆ เห็น GDP เราทะลุเกิน 4-5% ขึ้นไป อยากตามจีนให้ทัน ในความรู้สึกของคนไทยคนจีนมีความผูกพันกันเยอะ และปีหน้าจะเป็นปีเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี ผมว่าความรู้สึกนี้เกินกว่าการค้าหรือการลงทุน ความรู้สึกรักใคร่กันเป็นเรื่องที่สำคัญ จะนำมาซึ่งการค้าที่ดีต่อไปในอนาคต ผมเชื่อว่าไทยกับจีนจะต้องก้าวหน้าไปด้วยกันในอนาคตอย่างแน่นอน“ รมว.พาณิชย์ กล่าว