จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด และระบุข้อความว่า “เตือนภัยครับ ร้านซักผ้าย่านนนทบุรี หน้าเอื้ออาทรราชพฤกษ์ คนร้ายโรคจิตลักขโมยชุดชั้นใน ได้ไปหลายชิ้นครับ ฝากเตือนคนในพื้นที่ด้วยครับ พบเห็นคนร้ายให้รีบโทรแจ้ง สภ.ในพื้นที่ด่วนที่สุดครับ”

ภาพจากกล้องวงจรปิด (1) วันที่ 4 พ.ย. 67 เวลา 20.21 น. จับภาพผู้ก่อเหตุ อายุประมาณ 40-45 ปี สวมเสื้อกีฬาสีขาวครีม ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ ได้นำเสื้อผ้ามาซักในร้านบริเวณเครื่องซักผ้าฝั่งตรงข้าม เมื่อผู้เสียหายเดินออกจากร้านไป ผู้ก่อเหตุได้เดินถือตะกร้าผ้าสีน้ำตาลมาที่เครื่องซักผ้าของผู้เสียหาย และเปิดฝาเครื่องซักผ้า เลือกหยิบชุดชั้นในของผู้เสียหายใส่ตะกร้า ก่อนจะปิดฝาเครื่องและยกตะกร้าผ้าเดินไปที่รถจยย.ของตนเองที่จอดอยู่หน้าร้านและขับขี่ออกไป ซึ่งเจ้าของร้านได้ถ่ายภาพนิ่งรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์ เอ็กซ์ สีส้ม ทะเบียนหมวด กทม. ซึ่งเป็นรถจยย.ของผู้ก่อเหตุไว้ได้

ภาพจากกล้องวงจรปิด (2) วันที่ 5 พ.ย. 67 เวลา 10.35 น. จับภาพผู้ก่อเหตุสวมใส่เสื้อผ้าชุดเดิม เดินตามหลังชายคนหนึ่งรูปร่างผอมสูง สวมเสื้อสีดำคอปกสีขาว ใส่กางเกงยีนขายาว และสวมหมวกสีดำ คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อน โดยได้เดินนำหน้าผู้ก่อเหตุที่ถือถุงหิ้วสีเขียว ก่อนจะนำไปวางไว้ภายในร้าน และเดินกลับออกไป

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณร้านซักผ้าหยอดเหรียญแห่งหนึ่ง ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งจากนายณัฐกิตติ์ (สงวนนามสกุล) อายุ​ 29 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ประมาณ 2 ทุ่ม ตนเอาผ้ามาซักกับแฟน แล้วแฟนตนบอกว่าเห็นผู้ชายคนหนึ่งมองหน้าแปลกๆ และมองบ่อย พอตนมองกลับก็ไม่มอง ตนเอาผ้าใส่ถังเสร็จเลยกลับบ้านกันก่อนแล้วค่อยออกมาเอา พอกลับมาตะกร้าผ้าหาย ลุงเจ้าของร้านบอกว่ามีบุคคลน่าสงสัยขโมยเสื้อผ้าของแฟนตนไป และนำกล้องวงจรปิดมาให้ตนดู เห็นว่าเป็นผู้ชายคนเดียวกันกับที่มองหน้าแฟนตน ซึ่งหลังจากตนกับแฟนออกจากร้านไปผู้ก่อเหตุก็เดินมาเปิดเครื่องซักผ้าแล้วเลือกเอาเฉพาะเสื้อในกับกางเกงชั้นในของแฟนตนไป ประมาณ 7 ตัว

นายณัฐกิตติ์​ เล่าต่อว่า จากการสอบถามเจ้าของร้านบอกว่าผู้ก่อเหตุเคยทำลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง เบื้องต้นทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุเอาชุดชั้นในมาคืนแล้ว แต่ตนคงไม่กล้าให้แฟนเอากลับมาใช้ หลังจากนี้คงต้องระวังตัวมากกว่าเดิม เพราะร้านซักผ้าเป็นที่สาธารณะ ตนอยากเตือนภัย และจะเดินทางไปแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับผู้ก่อเหตุให้ไวที่สุด เพราะถ้าปล่อยลอยนวลไปไม่รู้ว่าครั้งต่อๆไปอาจจะไม่ได้มาขโมยชุดชั้นใน แต่ถ้ามีผู้หญิงมาซักผ้าคนเดียวอาจเกิดอันตรายขึ้นได้

ด้านนาย​ตรี​จักร​ อัมคุนันทน์​ เจ้าของร้านซักผ้า​หยอดเหรียญ กล่าวว่า ตนคิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นโรคจิต เพราะจ้องมองน้องผู้หญิงผู้เสียหายเป็นเวลานาน ก่อนจะก่อเหตุขโมยชุดชั้นในภายในเครื่องซักผ้าไป ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง วันนี้ช่วงสายๆผู้ก่อเหตุได้เอาเสื้อผ้า และชุดชั้นในที่เคยขโมยไปเอากลับมาคืน ดูจากกล้องวงจรปิดตอนที่ก่อเหตุมาคนเดียว แต่ตอนที่นำผ้ามาคืน มากัน 2 คน น่าจะเป็นเพื่อนกัน ตนเห็นเพื่อนผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาในร้านก่อนและกวักมือเรียกให้เอาผ้าเข้ามาวางคืนไว้ที่โต๊ะ จังหวะนั้นมีลูกค้าผู้หญิงเข้ามาใช้บริการที่ร้าน ผู้ก่อเหตุได้อ้างว่าหยิบผ้าผิดไปเลยเอามาคืน ตนได้ยินเสียงเลยเดินออกมาดูเห็นผู้ก่อเหตุกับเพื่อนเดินกลับออกไปแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นคนที่อาศัยอยู่แถวนี้ ซึ่งคืนเกิดเหตุตนก็แจ้งตำรวจเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางศรีเมือง ทำงานได้รวดเร็วมาก และให้คำแนะนำว่าเราเป็นสถานบริการ ต้องให้ผู้เสียหายแจ้งความเอง ตนก็ยินดีให้ข้อมูลและหลักฐานทุกอย่าง รวมถึงยินดีเป็นพยานให้ ซึ่งในร้านมีกล้องวงจรปิดเยอะ.