น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวในวันชาติจีนปี 2567 ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. 2567 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยจำนวน 1.32-1.83 แสนคน เพิ่มขึ้น 57-144% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 คาดว่าจะสร้างรายได้ 3,710-5,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 58-121% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของจากปี 2566 ที่มีจำนวน 84,340 คน สร้างรายได้ 2,343 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18,000 คน/วัน มากกว่าช่วงปกติ 30% โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 6,300 บาทต่อคนต่อทริป ส่วนใหญ่พักเฉลี่ย 6 วันต่อทริป และจากแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวจีนออกเดินทางต่างประเทศมีสัดส่วนฟื้นตัว 85% จากปี 2562 และเที่ยวบินตรงเข้าไทยเพิ่มขึ้น70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 จากเที่ยวบินเข้าสู่เมืองหลักของไทย

ขณะที่ยอดการจองบัตรโดยสารเครื่องบินล่วงหน้าระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. 2567 พบว่า มียอดจองบัตรโดยสารจากจีนเข้าไทยเพิ่มขึ้น 250% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 66 โดยมียอดจองเดินทาง ณ วันที่ 1 ต.ค. 2567 เข้ามามากสุด ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดยาววันชาติ และนักท่องเที่ยวบางส่วนทยอยเดินทางเข้ามาก่อนล่วงหน้า เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 ก.ย. 2567 โดยนักท่องเที่ยวจีนมีการจองล่วงหน้าก่อนการเดินทางสั้นลง โดยนิยมจองล่วงหน้าก่อนการเดินทางเพียง 8 วัน นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่เดินทางเป็นกลุ่มประมาณ 13 คน 

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า แผนการบินเข้าไทยจากจีนในช่วงวัยหยุดชาติจีนเพิ่มขึ้น 70% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 ในเส้นทางบินตรงเข้าไทยสู่ 6 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย และอุดรธานี มีจำนวน 197,757 ที่นั่ง หรือมีจำนวนเที่ยวบิน 1,097 เที่ยวบิน โดยมาจาดทั้งหมด 43 เมืองของจีน ซึ่ง 5 เมืองที่เข้าไทยมากสุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เฉิงตู คุนหมิง และปักกิ่ง ขณะเดียวสายการบินตรงจากจีน ได้เปิดเส้นทางบินเพิ่มใน 6 เส้นทางบินของไทย อีกเส้นทางละ 1 เที่ยวบิน เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาววันแรงงานของจีน

นอกจากนี้ จากการประชาสัมพันธ์ การจัดโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตร และมาตรการวีซ่าฟรีทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยในช่วงวันชาติจีนมากขึ้น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-22 ก.ย. 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม จำนวน 25 ล้านคน สร้างรายได้รวม 1.188 ล้านล้านคน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 5.107 ล้านคน มาเลเซีย 3.643 ล้านคน อินเดีย 1.485 ล้านคน เกาหลีใต้ 1.347 ล้านคน และรัสเซีย 1.137 คน.