สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ว่ากองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่าเครื่องบินรบปฏิบัติการโจมตีเป้าหมาย “หลายสิบแห่ง” ในเลบานอน ซึ่งเป็น “ฐานที่มั่นและคลังแสง” ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ต่อเนื่องจากการโจมตีเป้าหมาย “หลายร้อยแห่ง” ในเลบานอน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


ขณะที่พล.ร.ต.ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า “โลกจะปลอดภัยมากขึ้น” หลังอิสราเอลสามารถสังหารนายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ จากการโจมตีเป้าหมาย “อย่างจำเพาะเจาะจง” ในกรุงเบรุต เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่า ภารกิจทางทหารของอิสราเอลที่มีต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ “ยังไม่ยุติ” เนื่องจากยังคงมีสมาชิกและคลังอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อีกเป็นจำนวนมาก

AFP


ด้านแหล่งข่าวหลายกระแสระบุว่า นายฮาเชม ซาฟีดดีน ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของนาสราลเลาะห์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ส่วนอีกคนหนึ่งที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ คือนายนาอิม กัสเซ็ม รองผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์คนปัจจุบัน


ส่วนนายโมฮัมหมัด เรซา อาเรฟ รองประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวว่า การสังหารนาสราลเลาะห์จะนำไปสู่ “การทำลายล้าง” อิสราเอล โดยอิหร่าน เลบานอน อิรัก และซีเรีย ต่างประกาศการไว้อาลัยให้แก่นาสราลเลาะห์


ทั้งนี้ นับตั้งแต่อิสราเอลยกระดับปฏิบัติการทางทหารกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เมื่อช่วงต้นเดือนก.ย. มีรายงานผู้เสียชีวิตในเลบานอนแล้วมากกว่า 700 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งรุนแรง เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ประชาชนอีกมากกว่า 200,000 คน ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น.

เครดิตภาพ : AFP