เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลของนิด้าโพลที่ความนิยมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นอันดับหนึ่ง และนายณัฐพงษ์มาเป็นอันดับสาม มีนัยอะไรหรือไม่ ว่า เรื่องของผลโพล เป็นเรื่องปกติ และเรารับรู้ เพื่อนำมาปรับปรุงทำงานให้ดียิ่งขึ้น และเดินหน้าทำงานในพื้นที่ต่อ ซึ่งคิดว่าไม่ได้มาเป็นอุปสรรค หรือเสียกำลังใจใด ๆ และบริบททางการเมืองที่ผ่านมา มีทั้งขึ้นทั้งลง รวมถึงมีสำนักไหนเป็นคนสำรวจ เชื่อว่าวิธีการเดียวที่จะทำให้คะแนนนิยมเรามั่นคงยิ่งขึ้น ดีวันดีคืนไปถึงการเลือกตั้งปี 2570 คือทำงานในพื้นที่อย่างเต็มที่

เมื่อถามถึงการอภิปรายของฝ่ายค้านในสภาโดยเฉพาะเรื่องเมียนมาส่งผลต่อคะแนนนิยมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน การที่พรรคชี้แจงกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ทำความเข้าใจ รวมถึงทางการทำงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิดประชาชนเป็นส่วนสำคัญมากกว่า 

เมื่อถามต่อว่าปัจจัยที่ทำให้คะแนนนิยมของพรรคลดลงวัดจากอะไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดการยุบพรรคที่ผ่านมา ต้องยอมรับตามข้อเท็จจริงว่าหลายพื้นที่ที่ตนลงไปดู ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง หรือการลงพื้นที่อย่างแข็งขัน ชาวบ้านยังไม่รับทราบข่าวสาร บางคนยังไม่ทราบว่าตนกลายมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนแล้ว ซึ่งบางทีชาวบ้านไม่ติดตามข่าวสาร เพราะฉะนั้นผลโพลที่ออกมาแล้วถ้าเกิดสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาของเรา ตอนนี้คือการเข้าหาประชาชน และทำงานในพื้นที่เพื่อให้รับทราบข่าวสารอย่างทั่วถึง

‘หัวหน้าพรรคประชาชน’ เมินผลโพลนิด้า ‘อิ๊งค์’ คะแนนพุ่งนำอันดับหนึ่ง

เมื่อถามย้ำว่าความนิยมมาจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลด้วยใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์  กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น คิดว่า ตนพร้อมเดินหน้าทำงานต่อ และพิสูจน์การทำงานต่อจากนี้อีก 2 ปีกว่า และเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนจะได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ประชาชน แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นได้ ต้องยืนยันว่า เราคงไม่ได้คาดหวังว่าประชาชนจะมาด้วยกับเรา ถ้าเรายังไม่มีผลงาน ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องสื่อสารต่อลูกพรรคทุกคนคือการเดินหน้าทำงาน  และไม่ทิ้งพื้นที่แน่นอน

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล ตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลไว้หลายด้าน แต่ตัวข้อมูลอาจจะยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ยืนยันว่ามีหลายกรณีที่เรารวบรวมเข้ามาแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะยื่นญัตติประมาณช่วงต้นปีหน้า ภายในไตรมาสแรก ซึ่งมีหลายเรื่อง และนโยบายต่าง ๆ ด้วย แต่อันที่น่าสนใจคือการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 แบบไม่ลงมติ ได้มีการหารือภายในพรรค ซึ่งอยู่ระหว่างการขอข้อสรุปจากที่ประชุม สส. และมีความเห็นได้ว่าอาจจะยื่นก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นไปได้.